SYNEX ปรับกลยุทธิ์ช่วง “โควิด” ระบาด ส่งสินค้าไอทีโซลูชันตีตลาด-ยกระดับการดูแลคู่ค้า

SYNEX ปรับกลยุทธิ์ช่วง “โควิด” ระบาด ส่งสินค้าไอทีโซลูชันตีตลาด-ยกระดับการดูแลคู่ค้า


นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าไอทีชั้นนำระดับโลกหลากหลายประเภท เปิดเผยว่า ซินเน็คฯ มีความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

ทั้งในด้านกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ ควบคู่กับมาตรการความปลอดภัยที่เข้มข้นด้านบุคลากร สอดรับกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และมาตรการของภาครัฐ ด้วยการจัดให้มีระบบคัดกรองพนักงานและผู้ที่มาติดต่อทุกรายก่อนเข้าอาคารสำนักงานและคลังสินค้า รวมถึงการบริหารรูปแบบการทำงานของพนักงานให้เป็นไปตามนโยบายการเว้นระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing อย่างเคร่งครัด และยังนำเอาเทคโนโลยีประสิทธิภาพสูงทั้งระบบตรวจวัดอุณหภูมิ

รวมถึงอุปกรณ์ และซอฟต์แวร์สำหรับการประชุมทางไกลต่างๆ เข้ามาสนับสนุนการทำงานของพนักงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อให้ความมั่นใจกับคู่ค้าว่าซินเน็คฯ จะสามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ซินเน็คฯ ในฐานะผู้นำธุรกิจดิสทริบิวเตอร์สินค้าในกลุ่มไอทีและโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ของประเทศไทย มีแบรนด์ที่จัดจำหน่ายครอบคลุมกว่า 60 แบรนด์ชั้นนำทั่วโลก และมีฐานลูกค้าซึ่งเป็นดีลเลอร์กว่า 6,000 ราย และศูนย์บริการกว่า 60 แห่งทั่วประเทศ โดยกลุ่มสินค้าของซินเน็คฯ แบ่งออกเป็น 7 กลุ่มหลัก

คือ Mobile Phone & Tablet, Personal Computer, PC Component, Peripheral & Accessory, Commercial & Cloud Service, Smart Device & IoT และ Service & Maintenance ด้วยความได้เปรียบจากการมีแบรนด์ที่หลากหลาย ทำให้ซินเน็คฯ สามารถกระจายความเสี่ยงในเรื่อง Product mix ได้ดี

นอกจากนี้ ยังมองหาแบรนด์ใหม่เข้ามาเสริมพอร์ตอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการสร้างแพลตฟอร์มใหม่ๆ เพื่อให้ซินเน็คฯ ครบวงจร ตอบโจทย์ลูกค้าได้มากขึ้น และไม่หยุดนิ่งในการมองหาโอกาสใหม่ตลอดเวลาเพื่อที่จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต

โดยในปีนี้ ซินเน็คฯ เน้นการดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ “SYNNEX as a service” ผ่าน  3 แพลตฟอร์มหลัก ได้แก่ “SYNNEX Services plus” การบริการทั้งก่อนและหลังการขายที่ดูแลสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมพิเศษให้กับผู้บริโภค “SYNNEX Logistic plus” ดูแลด้านการบริหารคลังสินค้า การจัดส่งสินค้า และการขนส่ง และ “SYNNEX Financial plus” การบริการด้านวงเงิน เครดิตเทอม รวมถึงบริการสินเชื่อโปรเจ็กต์ใหม่ๆ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ และบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นจุดแข็งสำคัญในการต่อยอดแผนการตลาดกับคู่ค้าให้เติบโตไปพร้อมกับเรา ทั้งหมดนี้เป็นการยกระดับเพื่อสร้างความเชื่อมั่นภายใต้ตราสัญลักษณ์ Trusted by SYNNEX อย่างครอบคลุมรอบด้านให้มีความพรีเมียมมากขึ้น

อีกทั้ง มาตรการของรัฐบาลในการปิดห้างสรรพสินค้า และลดการรวมกลุ่มที่อาจทำให้เกิดการแพร่กระจายของโรคระบาด ซินเน็คฯ ได้ปรับกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ และการบริการ ด้วยการส่งแคมเปญใหญ่ในคอนเซ็ปท์ “WORK & LIFE From Home Solution” รวมผลิตภัณฑ์ไอทีโซลูชัน และแกดเจ็ตสำหรับ Work from Home ออกสู่ตลาด เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์การทำงานและอยู่บ้านให้เป็นเรื่องง่าย ผ่อนคลายขึ้น เพื่อรับมือกับสถานการณ์ในครั้งนี้โดยเฉพาะ เปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากเล็งเห็นว่า มีความต้องการใช้สินค้าไอทีเพื่อรองรับมาตรการ Work from Home จำนวนมาก

โดยสินค้าที่ซินเน็คฯ จัดจำหน่าย ได้แก่ ระบบกล้องวงจรปิดตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ชุดอุปกรณ์ และซอฟท์แวร์สำหรับวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์  ชุดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค อุปกรณ์ในการกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ต ไปจนถึงโซลูชันในกลุ่มผู้รักสุขภาพการออกกำลังกาย และเกมมิ่ง เป็นอีกหนึ่งกลุ่มสินค้าที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างมากบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับความต้องการได้ผ่านตัวแทนจำหน่ายซินเน็คฯ ทั่วประเทศ

นอกจากนี้ ซินเน็คฯ เพิ่มมาตรฐานการให้บริการ มองเป็นหัวใจของธุรกิจ เพื่อให้ลูกค้าอุ่นใจแม้ในสถานการณ์โควิด-19 สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าไอทีภายใต้ตราสัญลักษณ์ Trusted by Synnex สามารถใช้บริการที่ศูนย์บริการลูกค้าซินเน็คฯ ในสาขาที่เปิดให้บริการ ได้แก่ ฟรี บริการผู้เชี่ยวชาญคอยช่วยเหลือจากระยะไกล (Synnex Remote Service) ฟรี บริการตรวจสอบสถานะงานซ่อม และรับประกันสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้ง บริการเปลี่ยน หรือ รับ-ส่ง สินค้าถึงบ้าน และสามารถส่งสินค้าซ่อมทางไปรษณีย์ ตอกย้ำ บริการที่ครบวงจรที่สุดที่ซินเน็คฯ มอบให้ และพร้อมเคียงข้างคุณในทุกสถานการณ์

“ในสถานการณ์ที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซินเน็คฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ เราทำงานร่วมกับลูกค้าของเราอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมสำหรับการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บริการกับลูกค้าของเรา แม้ในช่วงไตรมาสแรกซินเน็คฯ ได้รับผลกระทบในแง่ของอุปทานของสินค้าบางแบรนด์ในวงจำกัด และมีการบริหารจัดการสต๊อกสินค้าเพื่อให้มีสินค้าจำหน่ายอย่างเพียงพอ

จึงมองว่าภายหลังสถานการณ์โรคระบาดคลี่คลาย จะมีความต้องการด้านสินค้าไอทีเพิ่มมากขึ้นจากทั้งภาครัฐบาลและเอกชน เร่งลงทุนนำไอทีเข้ามาเสริมธุรกิจ รวมถึงรับโอกาสจากการเข้าสู่ยุค 5G โดยซินเน็คฯ เป็นผู้นำสินค้าไอทีที่มีความหลากหลายที่สุดและแข็งแกร่งในประเทศ โดยบริษัทฯ จะติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับวิกฤตเป็นโอกาส และสร้างผลประกอบการที่เติบโตในระยะยาว” นางสาวสุธิดา กล่าว

Back to top button