BEAUTY พุ่งกระฉูด 11% ลุ้นครม.ผ่อนปรนร้านค้าเปิดบริการ รู้ผลพรุ่งนี้!

BEAUTY พุ่งกระฉูด 11% ลุ้นครม.ผ่อนปรนร้านค้าเปิดบริการ รู้ผลพรุ่งนี้!


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BEAUTY ณ เวลา 15.26 น.อยู่ที่ระดับ 1.80 บาท บวก 0.18 บาท หรือ11.11%  ด้วยมูลค่าซื้อขาย 789.55 ล้านบาท  คาดเก็งกำไรรัฐไฟเขียวผู้ประกอบการร้านค้ากลับมาให้บริการอีกครั้ง

อนึ่งวันนี้(27เม.ย.63)นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศบค.มีมติขยายเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปอีก 1 เดือน หรือวันที่ 1-31 พ.ค.โดยจะยังควบคุมเดินทางเข้า-ออกประเทศ เคอร์ฟิว และการชะลอเดินทางข้ามจังหวัด

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.เห็นชอบหลักการแนวทางผ่อนปรนเปิดธุรกิจบางประเภทตามข้อเสนอสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ตามที่ได้ร่วมหารือกับภาคเอกชน ซึ่งจะมีการกำหนดรายละเอียดและเงื่อนไขของการกลับมาให้บริการในช่วงบ่ายวันนี้ หากได้ข้อสรุปก็จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันพรุ่งนี้

โฆษก ศบค.ระบุว่า การกลับมาเปิดธุรกิจบางส่วนจะอยู่ภายใต้ข้อเสนอที่จะแบ่งธุรกิจเป็น 4 สี  ได้แก่ สีขาว เป็นธุรกิจที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ยกตัวอย่าง ร้านค้าขนาดเล็ก ร้านอาหารที่เปิดในพื้นที่โล่งแจ้ง สวนสาธารณะ, สีเขียว เป็น ร้านขนาดเล็กติดแอร์ พื้นที่ไม่มาก มีมาตรการควบคุม สนามออกกำลังกายกลางแจ้ง, สีเหลือง เป็นกิจการที่มีพื้นที่ปิด มีขนาดใหญ่ คนใช้บริการจำนวนมาก และ สีแดง เป็นกิจการที่มีความเสี่ยงสูง ยกตัวอย่าง สนามมวย แหล่งบันเทิง

ทั้งนี้ การผ่อนปรนจะยึดหลัก แบ่งเป็น 4 ระยะ ห่างกัน 14 วัน โดยการผ่อนปรนแต่ละระยะจะต้องเป็นสถานประกอบการที่เปิดได้พร้อมกันทั่วประเทศ ไม่ใช่พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับการเคลื่อนย้ายประชาชนข้ามเขต รวมทั้งมีการทบทวนและประเมินผลตลอดเวลา หากมีการแพร่ระบาดจะสั่งหยุดทันที

ขณะที่กิจการเหล่านั้นจะต้องปฏิบัติภายใต้เงื่อนไขด้านสาธารณสุข คือ ต้องเว้นระยะห่าง, ใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย, มีการวัดไข้, จัดบริการเจลล้างมือ, จำกัดจำนวนคนเข้าใช้บริการ และหากเป็นไปได้ให้มีการใช้แอพพลิเคชั่นติดตามตัว

 

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า  สถานการณ์ COVID-19 ในไทยดีขึ้นมาก ผู้ติดเชื้อใหม่ลดลงมีโอกาสสูงที่จะไม่ต้องขยายเวลา lockdown อาจมีแรงเก็งกำไรธุรกิจที่มีหน้าร้าน (HMPRO, GLOBAL, CPN, CRC, M, ZEN, BEAUTY, SPA) แต่เน้นว่าเป็นการเก็งกำไร เพราะการบริโภคยังไม่กลับมาดีเหมือนเดิม แต่ BEM, BTS ลงทุนได้

Back to top button