สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 11 พ.ค. 2563

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 11 พ.ค. 2563


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการที่หลายประเทศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เร็วเกินไปอาจทำให้ไวรัสโควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดเป็นรอบที่ 2 อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มธุรกิจสุขภาพ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,221.99 จุด ลดลง 109.33 จุด หรือ -0.45% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,930.32 จุด เพิ่มขึ้น 0.52 จุด หรือ +0.02% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,192.34 จุด เพิ่มขึ้น 71.02 จุด หรือ +0.78%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (11 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบ 2 ของโรคโควิด-19 เนื่องจากประเทศจำนวนมากเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยหุ้นที่ปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจถ่วงตลาดลง อาทิ กลุ่มธนาคาร, กลุ่มเหมืองแร่ และกลุ่มการเดินทาง

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.40% ปิดที่ 339.70 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 10,824.99 จุด ลดลง 79.49 จุด หรือ -0.73% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,490.22 จุด ลดลง 59.42 จุด หรือ -1.31% ขณะที่ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,939.73 จุด เพิ่มขึ้น 3.75 จุด หรือ +0.06%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (11 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลอังกฤษวางแผนที่จะผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์บางส่วน แต่บรรดานักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับการระบาดรอบ 2 ของโรคโควิด-19

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,939.73 จุด เพิ่มขึ้น 3.75 จุด หรือ +0.06%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 พ.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่าการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เร็วเกินไปในหลายประเทศนั้น อาจทำให้ไวรัสโควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดเป็นรอบที่ 2 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน โดยความกังวลในเรื่องดังกล่าวได้สกัดปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่าซาอุดีอาระเบียจะปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมอีก 1 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนมิ.ย.

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 60 เซนต์ หรือ 2.4% ปิดที่ 24.14 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 1.34 ดอลลาร์ หรือ 4.3% ปิดที่ 29.63 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 1,700 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (11 พ.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้ลดความน่าดึงดูดของสัญญาทองคำ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาสถานการณ์การค้าระหว่างจีนและสหรัฐ รวมทั้งการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในหลายประเทศ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 15.9 ดอลลาร์ หรือ 0.93% ปิดที่ระดับ 1,698 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 9.8 เซนต์ หรือ 0.62% ปิดที่ 15.68 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 8 ดอลลาร์ หรือ 1.01% ปิดที่ 781.3 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 7 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,828.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าถือครองดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลที่ว่าการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เร็วเกินไปในหลายประเทศอาจทำให้ไวรัสโควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดเป็นรอบที่ 2

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน พุ่งขึ้น 0.51% สู่ระดับ 100.2466 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.76 เยน จากระดับ 106.66 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9728 ฟรังก์ จากระดับ 0.9708 ฟรังก์ นอกจากนี้ ยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.4023 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3931 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0808 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0840 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2329 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2410 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6483 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6525 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button