TKT เพิ่มทุน PP-ออกวอร์แรนต์ ดึง “คารี่ ออโตฯ” ถือหุ้น 25%

TKT เพิ่มทุน PP-ออกวอร์แรนต์ ดึง "คารี่ ออโตฯ" ถือหุ้น 25%


บริษัท ที.กรุงไทยอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TKT ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2563 ในวันที่ 13 พ.ค.2563 มีมติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 205.60 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 214 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียน 419.60 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน 205.60 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท

ทั้งนี้ บริษัทจะจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) เสนอขายให้แก่ คารี่ ออโตโมทีฟ อินเวสเม้นท์ คอมพานี ลิมิเต็ด (Karrie Automotive Investment Co.,Ltd.) (KAI) จำนวนไม่เกิน 23.78 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในราคาหุ้นละ 1.30 บาท คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 30.914 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ KAI เข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 10% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการจดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้ว

สำหรับการเสนอขายหุ้น PP ดังกล่าวอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า หากราคาเสนอขายต่ำกว่า 90% ของราคาตลาด ก่อนที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จะสั่งรับหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน บริษัทมีหน้าที่ห้ามมิให้ผู้ลงทุนขายหุ้นทั้งหมดภายในระยะเวลา 1 ปี (Silent Period) โดยภายหลังจากวันที่หุ้นสามัญเพิ่มทุนเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ครบ 6 เดือนผุ้ลงทุนสามารถทยอยขายหุ้นได้ 25% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่ถูกสั่งห้ามขาย

นอกจากนี้ บริษัทจะออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อซื้อหุ้นสามัของบริษัทรุ่นที่ 1 (TKT-W1) จำนวนไม่เกิน 48,220,000 หน่วย อัตราใช้สิทธิ 1.70 บาท/หุ้น มีอายุ 6 เดือน , รุ่นที่ 2  (TKT-W2) จำนวน 70,670,000 หน่วย อัตราใช้สิทธิ 1.60-2.00 บาท/หุ้น อายุ 18 เดือน และ รุ่นที่ 3  (TKT-W3) จำนวน 62,930,000 หน่วย อัตราใช้สิทธิ 2.50 บาท/หุ้น อายุ 18 เดือน ให้แก่ KAI โดยไม่คิดมูลค่า กำหนดอัตราส่วน 1 หุ้นสามัญต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยจะไม่นำใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

ส่วนรุ่นที่ 4  (TKT-W4) จำนวนไม่เกิน 48,20,000 หน่วย อัตราใช้สิทธิ 1.70 บาท/หุ้น อายุ 18 เดือน หากมีการใช้สิทธิ TKT-W1 ไปเท่าใด ให้อัตราส่วนการใช้สิทธิของ TKT-W4 1 หน่วยต่อ [(48,220,000-จำนวนหน่วยที่ใช้สิทธิไปใน TKT-W1)/48,220,000] หุ้น และกำหนดอัตราการใช้สิทธิเท่ากับ 1.70 บาท/หุ้น อายุ 18 เดือน โดยจะไม่นำใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

พร้อมทั้งจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนออกใหม่ไว้สำหรับรองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพ ของ TKT-W1, TKT-W2, TKT-W3 รวม 181,820,000 หุ้น

อีกทั้ง คณะกรรมการบริษัทยังมีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการ โดยอาศัยมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น (whitewash) ให้แก่ KAI เพราะหาก KAI ใช้สิทธิใน TKT-W1 ทั้งหมดจะทำให้มีสัดส่วนหุ้นเกินกว่า 25% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมด แต่ KAI ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อครอบงำกิจการ การลงทุนเพื่อเป็นการขยายธุรกิจเท่านั้น ซึ่งบริษัทจะแต่งตั้งบริษัท อวานการ์ด แคปปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ กำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ในวันที่ 30 มิ.ย.63

สำหรับ KAI มีผู้ถือหุ้นขั้นสุดท้าย คือ Karrie International Holding Limited (Kerrie) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ดำเนินธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจัดจำหนายผลิตภัณฑ์โลหะขึ้นรูปและพลาสติก เช่น กล่องเซิร์ฟเวอร์ แม่พิมพ์และผลิตภัณฑ์พลาสติก ธุรกิจให้บริการผลิตอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น การประกอบอุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์และเครื่องมือทางการแพทย์ และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ทั้งนี้ TKT ระบุว่าการเพิ่มทุนดังกล่าวเพื่อนำเงินไปใช้ชำระหนี้สถาบันการเงิน , ใช้เป็นเงินลงทุนขยายธุรกิจผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับรถยนต์และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และการขยายธุรกิจผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนเหล็กสำหรับรถยนต์คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

อีกทั้งในกรณีที่มีความเป็นไปได้ด้านการตลาด บริษัทจะมีการลงทุนซื้อที่ดิน สร้างอาคารโรงงาน และซื้อเครื่องจักรสำหรับธุรกิจผลิตพลาสติก และโลหะ ชิ้นส่วนปั๊มเหล็กในอุตสาหกรรมรถยนต์ ซึ่งเงินลงทุนส่วนหนึ่งจะมาจากการใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ KAI ที่บริษัทออกใบสำคัญแสดงสิทธิให้ในครั้งนี้

Back to top button