CPF ร่วงกว่า 5% เซ่นเงินบาทแข็ง ฟากโบรกฯ ยังแนะซื้อ อัพเป้าใหม่ 38 บ. มองพื้นฐานแกร่ง
CPF ร่วงกว่า 5% เซ่นเงินบาทแข็ง ฟากโบรกฯ ยังแนะซื้อ อัพเป้าใหม่ 38 บ. มองพื้นฐานแกร่ง ล่าสุดอยู่ที่ 30.25 บาท ลบ 1.75 บาท หรือ 5.47% มูลค่าซื้อขาย 681.15 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ล่าสุด ณ เวลา 10.05 น. อยู่ที่ 30.25 บาท ลบ 1.75 บาท หรือ 5.47% สูงสุดที่ 31 บาท ต่ำสุดที่ 30 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 681.15 ล้านบาท
ทั้งนี้ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ปัจจุบันค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นราว 4.3% QTD สอดคล้องกับสกุลเงินในเอเชียอื่นๆ เป็นผลพวงจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า จากการคาดการธนาคารกลางสหรัฐฯจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากผลกระทบ COVID-19 รวมถึงการส่งออกทองคำปริมาณมากของไทย ซึ่งจากทิศทางเงินบาทที่แข็งค่า
โดยหุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลลบ ได้แก่ 1) กลุ่มอิเลกทรอนิกส์ เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่มาจากการส่งออก การแข็งค่าของเงินบาททุกๆ 1 บาท จะมีผลทำให้กำไรของ KCE -6% และ HANA -5%, 2) กลุ่มอาหาร เนื่องจากมีรายได้ส่วนใหญ่จากต่างประเทศ โดยเรียงลำดับทุกการแข็งค่า 1 บาทจะส่งผลต่อกำไรลดลงดังนี้ STA -6%, TU -5%, CPF -5%, ASIAN -5%, GFPT -2% และ 3) อุตสาหกรรมอื่นที่ได้ผลกระทบเชิงลบจากค่าเงินบาทแข็งยังคงมีสาเหตุจากรายได้ส่วนใหญ่มาจากการส่งออก ได้แก่ SMPC ประเมินทุกๆ 1 บาทที่แข็งค่าทำให้กำไรลดลง -8-10%, MEGA -7% และ EPG -4%
ขณะที่ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น CPF และเลือกเป็นหุ้นเด่นของบล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ในกลุ่มอาหาร พร้อมปรับราคาเป้าหมายเพิ่มเป็น 38 บาท/หุ้น จากเดิมที่ 35 บาท อีกทั้งยังปรับเพิ่มประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักปี 2563 ขึ้นอีก 6.3% และปี 2564 ขึ้นอีก 5.4% เพื่อสะท้อนถึงราคาหมูที่สูงขึ้นในเวียดนาม และส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้เชื่อว่าในปี 2563 CPF จะได้อานิสงส์จากราคาหมูที่ยังคงสูงต่อเนื่องในเวียดนามเนื่องจากอุปทานขาดแคลนเพราะการระบาดของโรค ASF นอกจากนี้ เรายังคาดว่าราคาสินค้าในประเทศจะฟื้นตัวขึ้นในครึ่งปีหลังปี 2563 จากการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown