หุ้นเล็กต้องเก็บ

ในยามที่ดัชนีตลาดหุ้นกำลังแกว่งตัวไซด์เวย์หาทางขึ้นระลอกใหม่หลังอันตรายจากโควิด-19 ดูเหมือนจะกลายเป็นแค่สายลมที่พัดเลยไป คำถามคือหุ้นตัวไหนน่าเก็บกว่ากันจะตามมาทันที


พลวัตปี 2020 : วิษณุ โชลิตกุล

ในยามที่ดัชนีตลาดหุ้นกำลังแกว่งตัวไซด์เวย์หาทางขึ้นระลอกใหม่หลังอันตรายจากโควิด-19 ดูเหมือนจะกลายเป็นแค่สายลมที่พัดเลยไป คำถามคือหุ้นตัวไหนน่าเก็บกว่ากันจะตามมาทันที

หุ้นอย่าง บริษัท ทำธุรกิจดาต้าเบสเพื่อจัดการธุรกิจอย่าง บริษัท ฮิวแมนิก้า จำกัด (มหาชน) หรือ HUMAN ที่ทำผลงานทวนกระแสโควิด-19 ในไตรมาสแรกอย่างโดดเด่น ถือเป็นกรณีน่าสนใจพอสมควรสำหรับนักลงทุนที่มองหาหุ้นผลประกอบการสวยงาม และราคาไม่หวือหวาเกินจริง

ผลงานไตรมาสแรกที่ผ่านมาของ HUMAN ที่มีรายได้ 179.21 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 49.20 ล้านบาท เป็นไปตามการขยายตัวของธุรกิจบริการงานด้านทรัพยากรบุคคล (HR Solutions) และการให้บริการด้านการบริหารจัดการ บัญชีและการเงิน (Financial Solutions)

ผลประกอบการอันงดงามของ HUMAN มาจากการดำเนินงานล้วน ๆ โดยมีกำไรพิเศษจากอัตราแลกเปลี่ยนผนวกเข้ามาเล็กน้อย แม้จะไม่มีนัยสำคัญ ล้วนเกิดจากวิสัยทัศน์และการเจาะตลาดที่ตรงเป้าของทีมบริหารที่นำโดยนายสุนทร เด่นธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ฮิวแมนิก้า (HUMAN) อดีตผู้บริหารระดับพาร์ตเนอร์ของ PWC

ความสำเร็จจากไตรมาสแรกที่ทำกำไรสวนทางกับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนทั่วไป จะตอกย้ำว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หากว่าความสามารถทำรายได้และกำไรยังต่อเนื่องตลอดไตรมาสถัด ๆ ไป

เรื่องนี้ นายสุนทร เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2563 จะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสแรก ซึ่งนอกเหนือจากผลประกอบการปกติของ HUMAN เองแล้วยังมีแรงหนุนเพิ่มจากการที่

บริษัท ไทเกอร์ ซอฟท์ (1998) จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 100% ได้ยกระดับซอฟต์แวร์ให้มีเทคโนโลยีที่ดีขึ้นและมีความทันสมัยมากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า SME และลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่บางราย ซึ่งปัจจุบันก็อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญากับลูกค้า เพื่อทำในเรื่องของ Tiger Payroll Outsourcing คาดผลงานไตรมาส 2/2563 โตต่อเนื่องตามธุรกิจหลัก คงเป้าทั้งปีโต 20-30%, หวังได้ไฟเขียวบริการแพลตฟอร์มปล่อยกู้พนง.ในปีนี้

ความสำเร็จจากการเติบโตทั้งกำไรและรายได้ที่เดินหน้าราบรื่น ถือเป็นข้อยกเว้นที่ส่งผลให้ HUMAN เติบโตสวนทิศทางของตลาดรวมอย่างโดดเด่น ทั้งในแง่รายได้ และกำไร

ไม่เพียงเท่านั้น การที่บริษัทยังได้ร่วมทุนกับพันธมิตรประเทศสิงค์โปร์ และบริษัทประกันแห่งหนึ่งเพื่อให้บริการในเรื่อง Employees benefits โดยจะเริ่มจากประกันสุขภาพ และขยายไปในเรื่องส่วนตัวมากขึ้นคาดว่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนได้ในช่วงไตรมาส 225/63 เป็นต้นไป และตั้งเป้าปี 2564 ธุรกิจดังกล่าวจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด

การทำธุรกิจที่มีตลาดจำเพาะอย่างแพลตฟอร์มเพื่อตอบสนองความจำเป็นทางธุรกิจในยามที่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบที่เคลื่อนย้ายจากการทำงานแบบเดิมมาสู่ซอฟต์แวร์เพื่อการบริหารจัดการธุรกิจบนมือถือ ที่ไม่ใช่แค่เรื่องของบริการแบบที่เคยเห็น แล้วกระจายไปสู่แพลตฟอร์มใหม่ ๆ เช่นการเบิกสวัสดิการการรักษาพยาบาล แต่แพลตฟอร์มนี้มี AI ที่จะช่วยพนักงานแต่ละคน ดูแลสุขภาพตัวเอง ทำให้ตัวเองแข็งแรงมากขึ้น โดยมี AI เป็นผู้แนะนำในการดูแลสุขภาพ เช่น การรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือด, การออกกำลังกาย ที่ผนวกกับประกัน โรงพยาบาล ฟิตเนส ที่ต้องการเสนอผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่องของสุขภาพในมาร์เก็ตเพลสในแพลตฟอร์มของเรา ซึ่งบริษัทฯ ก็จะช่วยให้ลูกค้าดูแลพนักงานของตัวเองสามารถยืดหยุ่นหรือเลือกสวัสดิการตามความต้องการ หรือตามอายุของตัวเองได้” นายสุนทร กล่าว

ยิ่งไปกว่านั้น การขยายช่องทางให้บริการบนแพลตฟอร์มใหม่ของธุรกิจ ยังมีให้เห็นรุดหน้าเรื่อย ๆ เช่น การจับมือกับสตาร์ทอัพเพื่อให้บริการ P2P Lending โดยเป็นแพลตฟอร์มตัวกลางเพื่อให้ลูกค้าปล่อยเงินกู้ให้กับพนักงาน หรือธนาคารพาณิชย์เข้ามาปล่อยเงินกู้ผ่านแพลตฟอร์มนี้ได้ ซึ่งผู้กู้จะเป็นพนักงานของลูกค้าเท่านั้น เพื่อควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ในระดับที่ต่ำ และดอกเบี้ยต่ำ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจากับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อขอใบอนุญาต คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในปีนี้ แม้จะยังน้อย แต่ก็เพิ่มความหลากหลายในการสร้างรายได้ในอนาคต

พร้อมกันนั้น บริษัทยังเตรียมร่วมมือกับบริษัท Conical ซึ่ง HUMAN จะถือหุ้นในสัดส่วน 20% เพื่อให้บริการ E-Learning ผ่าน Conical Platform ที่จะช่วยบริหารจัดการ การเรียนการสอน การพัฒนาคนได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งทาง Conical ก็มีแผนที่จะจับมือกับ HUMAN เพื่อเข้าสู่ตลาด B2B และ Conical ยังร่วมกับเอไอเอสเพื่อเจาะตลาด SME ในการให้บริการ E-Learning ผ่านโทรศัพท์มือถือของเอไอเอสด้วย

การเจาะตลาดที่เพิ่มความหลากหลายของแหล่งรายได้ใหม่เหล่านี้ ทำให้การที่ HUMAN ซึ่งมีกำไรสุทธิ ไตรมาสแรกเท่ากับ 49 ล้านบาท (+40%จากระยะเดียวกันปีก่อน) ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ ทั้งในรายได้จากธุรกิจ HR Solution ดีกว่าคาด เนื่องจากค่าใช้จ่ายขายและบริหารน้อยกว่าคาด ถือว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือชั่วคราว แต่เป็น “ของจริง”

กำไรที่เติบโตมาจากรายได้ HR Solution ที่ขยายตัวสูง 40 % ของปีก่อน และรายได้จาก Fiinancial Solution ที่ขยายตัว 8 % ส่งผลให้รายได้รวมขยายตัวสูงที่ 35% ของปีก่อนโดยหลักมาจากการทำงบการเงินรวมกับ Tiger Soft ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 46% เพิ่มจาก 44.6% ในไตรมาส 4/2562  ส่วนค่าใช้จ่ายขายและบริหารลดลง -52% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และ -16% จากไตรมาสก่อน ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์ทุกสำนักประมาณการไว้ เพราะ 1) การใช้ระบบบัญชีใหม่ TFRS ทำให้ค่าใช้จ่ายลดลง แม้จะมีต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นแทน ซึ่ง ถ้าไม่รวมรายการกำไรจาก FX พบว่า Core profit จะเท่ากับ 46% จากระยะเดียวกันปีก่อน

ไม่เพียงเท่านั้น การที่ผู้บริหารออกมาระบุว่า แม้แนวโน้มไตรมาสสอง คาดว่าผลประกอบการจะอ่อนลงรายไตรมาส เนื่องจากรายได้ HR solution ที่อ่อนลงหลังจำนวนพนักงานของลูกค้าลดลง โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าธุรกิจอาหาร & เครื่องดื่ม และโรงแรม แต่ธุรกิจ Hardware มีโอกาสดีกว่าคาด

คำแนะนำส่วนใหญ่ของนักวิเคราะห์ที่ให้ราคาเป้าหมายเกินกว่า 8.00 บาท จึงถือว่าเป็นการประเมินที่ระมัดระวังเกินจริงพอสมควร เพราะ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยอมรับว่าผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นผลทางบวกด้วยกันถึง 3 ด้าน คือ จะต้องมีการทบทวนวิธีการฝึกอบรม และพัฒนาคน โดยเฉพาะ Online Learning, การทำงาน บริษัทจะให้ความสำคัญกับการมีสุขภาพดีของพนักงานมากขึ้น เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อกิจการ ซึ่งสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นสวัสดิการจะมีการยกระดับมากขึ้น และเป็นการออกแบบธุรกิจใหม่เพื่อเพิ่มโอกาสในวิกฤต “นายสุนทร กล่าว

แม้ผู้บริหารจะระมัดระวังไม่ล้ำเส้น ด้วยการ บอกใบ้ ว่า เป้าหมายรายได้ปี 2563 ยังคงการเติบโตไว้ที่ 20-30% เนื่องจากบริษัทได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่มากนัก แม้มีจำนวนพนักงานในบริษัทของลูกค้าลดลงไปบ้าง แต่บริษัทยังมีลูกค้ารายใหม่ ๆ เข้ามาทดแทน ทั้งนี้ สัดส่วนลูกค้าของ HUMAN มาจากภาคการผลิต (Manufacturing) ราว 25%, ภาค Retail 25% และ SME อีก 18% ส่วนที่เหลือมาจากแหล่งอื่น ๆ โดยไม่พูดถึงกำไรสุทธิที่เติบเติบโตดังที่แสดงให้เห็นในไตรมาสแรกมากแล้ว…ยิ่งทำให้ท้าทายต่อการเข้าถือเพื่อทำกำไรในอนาคต

คำถามคือ ราคาเป้าหมายที่ให้มาเกินระดับ 9.00 บาทต่อหุ้นจะต่ำเกินไปหรือไม่ ยังไม่มีคำตอบ หากพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่า ค่าพี/อีล่าสุด ยังถือว่าต่ำกว่าในอดีตมากมาย

คำถามท้ายสุดคือ ราคาหุ้น HUMAN ที่ระดับต่ำกว่า 8.00 บาทยามนี้ เทียบกับอัตรากำไรสุทธิที่ระดับ Top 10 ของทั้งตลาดหุ้นไทย ต่ำเกินจริงหรือไม่……… นักลงทุนคงต้องถามไถ่กันเอง

Back to top button