BANPU พลังงานหันเห.!

ภาพติดตาของบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU เป็นพลังงานถ่านหิน แต่ถ่านหินถึงแม้จะยังมีความต้องการเยอะทั้งจากโรงไฟฟ้า หรือโรงงานอุตสาหกรรม แต่ก็ถูกคัดค้านจากทั่วโลก เพราะภาพจำถ่านหินเป็นพลังงานสกปรก ทำลายสิ่งแวดล้อม...ทำให้ธุรกิจถ่านหินของ BANPU ซบเซาหนัก


สำนักข่าวรัชดา

ภาพติดตาของบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU เป็นพลังงานถ่านหิน แต่ถ่านหินถึงแม้จะยังมีความต้องการเยอะทั้งจากโรงไฟฟ้า หรือโรงงานอุตสาหกรรม แต่ก็ถูกคัดค้านจากทั่วโลก เพราะภาพจำถ่านหินเป็นพลังงานสกปรก ทำลายสิ่งแวดล้อม…ทำให้ธุรกิจถ่านหินของ BANPU ซบเซาหนัก

ที่ผ่านมา BANPU ก็พยายามแตกไลน์ไปสู่ธุรกิจใหม่ เพื่อชดเชยหรือทดแทนก่อนที่ธุรกิจถ่านหินจะดับลง…

เริ่มตั้งแต่ ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า โดยส่งบริษัทลูก บริษัท บ้านปู อินฟิเนอร์จี จำกัด (BPIN) ไปถือหุ้น 21.50% ใน FOMM ประเทศญี่ปุ่น เพื่อพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า

ไปจับมือกับบริษัท ดูราเพาเวอร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ ผลิต และติดตั้งระบบแบตเตอรี่จัดเก็บพลังงานแบบลิเทียมไอออน (LiB) สำหรับรถยนต์และระบบไฟฟ้าสำรอง ตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนมาตรฐานโลก ในเมืองซูโจว (Suzhou) สาธารณรัฐประชาชนจีน

รวมทั้งธุรกิจโรงไฟฟ้าที่ลงทุนผ่านบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP ซึ่งได้ Spin-Off ออกมา เพื่อหวังเป็นเรือธงลำใหม่…

ล่าสุดก็ส่งบริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ BANPU และ BPP ถือหุ้น 50% ไปซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานลม EI Wind Mui Dinh ขนาด 37.6 เมกะวัตต์ ณ จังหวัด Ninh Thuan ประเทศเวียดนาม ด้วยเม็ดเงินลงทุนมูลค่า 66 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 2,065 ล้านบาท

ถือเป็นครั้งแรกที่กลุ่ม BANPU ไปลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานลม…

ซึ่ง BANPU และ BPP จะรับรู้รายได้เข้ามาทันที เพราะเป็นโรงไฟฟ้าที่ COD แล้วตั้งแต่เดือน เม.ย.ปีที่แล้ว โดยขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) มีราคารับซื้อไฟฟ้า (FIT) อยู่ที่ 8.5 เซนต์สหรัฐต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง สัญญาการซื้อขาย (PPA) 20 ปี

เท่ากับว่า การลงทุนครั้งนี้จะทำให้พอร์ตธุรกิจโรงไฟฟ้าของ BANPU ใหญ่ขึ้น…โดยตั้งเป้าจะมีกำลังการผลิต 6,100 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568

ไม่ใช่แค่นี้ ก่อนหน้านี้ BANPU ก็ทุ่ม 570 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 18,650 ล้านบาท ส่งบริษัทลูก บริษัท Banpu North America Corporation (BNAC) เข้าลงทุนในแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ (Barnett) ณ บริเวณฟอร์ต เวิร์ธ เบซิน มลรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เพื่อต่อยอดธุรกิจแหล่งก๊าซธรรมชาติอีกด้วย

จะเห็นว่า ช่วงระยะหลังมานี้ BANPU มีอะไรที่หลากหลายขึ้น นอกเหนือจากถ่านหิน…

เพื่อลดภาพความมอมแมมของ BANPU ซึ่งธุรกิจถ่านหินทำให้กำไรเปรอะเปื้อน…

ที่สำคัญ ทำให้ราคาหุ้น BANPU ทรุดโทรมหนัก…จากปลายปี 2562 ราคาอยู่ที่ระดับ 11.90 บาท มาร์เก็ตแคป 61,426 ล้านบาท ล่าสุด ณ วันที่ 3 ส.ค. 2563 ราคาอยู่ที่ 5.45 บาท ปรับลดลง 54.20% ส่วนมาร์เก็ตแคปหายไป 33,294 ล้านบาท เหลือแค่ 28,132 ล้านบาทเท่านั้น

ขณะที่ดิวิเดนด์ยีลด์ปาไป 11.12% แล้ว

ก็ไม่รู้ว่า ผู้ถือหุ้น BANPU ควรจะดีใจ หรือร้องไห้ดี…

แหม๊…เลือกไม่ถูกจริง ๆ

…อิ อิ อิ…

Back to top button