DCC บวกสวนตลาด! แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังโตแกร่ง รับรายได้-อัตรากำไรพุ่ง

DCC บวกสวนตลาด! แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังโตแกร่ง รับรายได้-อัตรากำไรพุ่ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท ไดนาสตี้เซรามิค จำกัด (มหาชน) หรือ DCC ล่าสุด ณ เวลา 10.26 น. อยู่ที่ระดับ 2.42 บาท ปรับตัวขึ้น 0.06 บาท หรือ 2.54% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 11.31 ล้านบาท

โดย บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 3 บาท โดยกำไรสุทธิไตรมาส 2/63 เท่ากับ  444 ล้านบาท เติบโต +115% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน, +21% จากไตรมาสก่อน ซึ่งเป็นผลจาก รายได้เติบโตขณะที่อุตสาหกรรมหดตัว อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเกินคาด และค่าขนส่งต่ำลง

ทั้งนี้ รายได้เติบโต 16% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน และ 9% จากไตรมาสก่อน เป็น 2.37 พันล้านบาท เพราะช่วง Lockdown ประชาชนปรับปรุงและซ่อมแซมที่อยู่อาศัยกันมาก และบริษัทปรับกลยุทธ์การตลาดด้วยการไปพบลูกค้าตามหมู่บ้านมากขึ้น และมีสินค้าใหม่ คือ กระเบื้องขนาดใหญ่ 60×120 ซม.สำหรับลูกค้าระดับบน ซึ่งสามารถแข่งขันและทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศได้ดี และทำงบการเงินรวมกับ RCI (ถือหุ้น 84.88% ตั้งแต่ปลายปี 62)

สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นเป็น 41.8% ในไตรมาส 2/2563 จาก 39.2% ในในไตรมาส 2/2562 และ 39.5% ในไตรมาส 1/2563 เพราะสัดส่วนยอดขายกระเบื้องขนาดใหญ่ที่มีมาร์จิ้นสูงมากขึ้น, ต้นทุนก๊าซ (28% ของต้นทุนการผลิตรวม) ลดลง -28% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน ส่วนค่าขนส่งต่ำลงตามราคาน้ำมันดีเซลที่ลดลง -27% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน

ด้านรายได้ค่าเช่าในไตรมาส 2/2563 เพิ่มเป็น 15 ล้านบาท (+206% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน, +23% จากไตรมาสก่อน) เพราะจำนวนพื้นที่ให้เช่าเพิ่มขึ้น และไตรมาสนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษก้อนใหญ่ ซึ่งในไตรมาส 2/2562 มีตั้งสำรอง Employee benefit 42 ล้านบาท

ขณะที่ฐานะการเงินดีขึ้น กระแสเงินสดจากการดำเนินงานครึ่งปีหลัง สูงถึง 1.8 พันล้านบาท และมีเงินสดรับจากการเพิ่มทุน บริษัทจึงได้ชำระคืนหนี้บางส่วน ณ สิ้นมิ.ย.63 หนี้สินสุทธิได้ลดลงเป็น 1.84 พันล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน (Net gearing) เท่ากับ 0.38 เท่า เทียบกับ 1.14 เท่า ณ สิ้นธ.ค.62

นอกจากนี้บริษัท ประกาศจ่ายปันผลสำหรับไตรมาส 2/2563 เท่ากับ 0.045 บาท/หุ้น (คิดเป็น 83% ของ EPS) ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 24 ส.ค.63 ชำระเงิน 4 ก.ย.63

สำหรับ แนวโน้มกำไรสุทธิครึ่งปีหลัง เติบโตแข็งแกร่งจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน ซึ่งมาจากรายได้ขยายตัวและอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นมาก ทั้งนี้ยอดขายในเดือนก.ค.63 ยังเติบโตสูงที่ +15% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน ส่วน MTD ของเดือนส.ค.63 ขยายตัว +12% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน  ด้านอัตรากำไรขั้นต้นเดือนก.ค.63 เพิ่มเป็น 42.5% เนื่องจากราคาก๊าซลดลงต่อ คาดการณ์ว่ายอดขายในครึ่งปีหลัง จะเพิ่มขึ้นราว +8% ถึง +10% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน  และมีอัตรากำไรขั้นต้น 40+/-% ขณะที่ครึ่งปีหลังของปี 62 อยู่ที่ 37-39% รายได้ค่าเช่าขยับขึ้นต่อเนื่อง และบริษัทยังควบคุมค่าใช้จ่ายอย่าง Aggressive ต่อไป เราประมาณการกำไรสุทธิครึ่งปีหลังจะเติบโต +42% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน  แต่ถ้าเทียบกำไรสุทธิไตรมาส 3-4 กับไตรมาส 2/2563 ก็จะอ่อนลงตามปัจจัยฤดูกาล

ขณะที่ปี 64 กำไรสุทธิยังขยายตัวได้ต่อ ซึ่งมาจาก 1) ยอดขายที่เพิ่มขึ้นราว 5% โดยหลักมาจากการขยายส่วนแบ่งการตลาด (ซึ่งปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดในประเทศอันดับ 1 ที่ 42%) และการขายกระเบื้องขนาดใหญ่ทดแทนการนำเข้า, 2) อัตรากำไรขั้นต้นที่ทรงตัวสูง 41% เพราะสัดส่วนยอดขายกระเบื้องขนาดใหญ่ที่มีมาร์จิ้นสูงเพิ่มขึ้น, 3) มี Economy of scale มากขึ้น และ 5) รายได้ค่าเช่าสูงขึ้น โดยเราประมาณการของปี 64 ไว้ที่ 85 ล้านบาท (+26% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน)

ทั้งนี้ ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรสุทธิปี 63 และ 64 ขึ้น +6% และ +25% ตามลำดับ สะท้อนยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีกว่าคาด ยังผลให้คาดการณ์กำไรสุทธิปี 63 จะเติบโต +51% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน สู่ระดับ 1.47 พันล้านบาท ส่วนปี 64F คาดว่าจะเติบโตต่อ +12% เป็น 1.64 พันล้านบาท

โดยปรับคำแนะนำเป็นซื้อ และเพิ่มราคาพื้นฐานเป็น 3.00 บาท โดยเลื่อนไปอิงกับ P/E ปี 64 ที่ 15 เท่า คาดการณ์ Dividend yield ปี 63-64 ไว้ที่ 6% และ 7% (จ่ายทุกไตรมาส) ทั้งนี้ให้สมมติฐาน Payout ratio เท่ากับ 81% และ 85% ซึ่งอนุรักษ์นิยมกว่าที่บริษัทให้ Guidance ไว้ว่าจะปรับ Payout ratio ขึ้นป็น 100% ในปี 64 เพราะได้รับเงินจากการแปลงสภาพวอร์แรนต์เข้ามา 1 พันกว่าล้านบาท

Back to top button