จังหวะซื้อ CPF โบรกฯ มองไตรมาส 3 กำไรสวย เคาะเป้า 39.25 บ. อัพไซด์พุ่ง 35%

จังหวะซื้อ CPF โบรกฯ มองไตรมาส 3 กำไรสวย เคาะเป้า 39.25 บ. อัพไซด์พุ่ง 35%


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวบรวมบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF หลังราคาหุ้นปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งวานนี้ (14 ก.ย.) ปิดตลาดที่ 29 บาท ลบ 0.25 บาท หรือ 0.85% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.40 พันล้านบาท ดังนั้นจึงยังมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมาย 39.25 บาท อยู่ 35%

โดย บล.คิงส์ฟอร์ด ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” CPF ประเมินราคาเป้าหมาย 39.25 บาทต่อหุ้น โดยคาดไตรมาส 3/63 จะเติบโตขึ้นจากปัจจัยหนุนเรื่องราคาเนื้อสัตว์ที่ยังคงสามารถรักษาระดับราคาที่สูงในต่างประเทศ (ในเวียดนามราคาหมูยังสามารถยืนที่ระดับราว 70,000 VNG/kg.) และเริ่มเห็นการฟื้นตัวภายในประเทศ สำหรับในประเทศไทยความเคลื่อนไหวของราคาหมู และราคาไก่มีแนวโน้มที่ดีที่ 79-80 บาท/กก.และ 34 บาท/กก.ตามลำดับ (ปรับตัวขึ้นจากราคาเฉลี่ยไตรมาส 2/63 ที่ 66 บาท/กก.และ 29.7 บาท/กก.)

โดยได้ผลพวงจากความกังวลของการระบาด African Swine Flu ทำให้มีรายย่อยในประเทศไทยเลิกประกอบธุรกิจเลี้ยงหมู ประจวบกับการระบาดโรค PRRS ทางภาคเหนือของไทย ส่งผล ให้Supply หมูลดลง ประเมินกำไรสุทธิปี 63 และ 64 อยู่ที่ 21,324 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.54% เมื่อเทียบจากปีก่อน และ 22,542 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.71% เมื่อเทียบจากปีก่อน ตามลำดับ

ส่วน บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ ประเมินราคาเป้าหมาย CPF ที่ 36 บาทต่อหุ้น โดยภาพรวมยังเป็นกลุ่มที่เติบโต จาก Demand สูง และ Supply เนื้อสัตว์รายเล็กหายไป ทั้งจากโรค ASF และ Covid-19 จากราคาเนื้อหมูเวียดนามปรับขึ้น

ทั้งนี้คาดกำไรในไตรมาส 3/63 ยังออกมาดี จากราคาสุกรไทยฟื้นตัว และเป็น high season ของการส่งออกไก่ไป ญี่ปุ่น จีน ยุโรป อีกทั้งยังเติบโตเด่นในปี 2564 ระยะยาวเชื่อได้ประโยชน์จากการเข้าไปถือหุ้นในดีล Tesco นอกจากนี้เป็นหุ้นกลุ่มนำ Sector ที่มีความแข็งแกร่งในตลาดปัจจุบัน แต่ช่วงที่ผ่านมาราคาปรับตัวลงมามาก สามารถเก็งกำไร และถือลงทุนได้

อีกทั้งค่าเงินบาทมีสัญญาณอ่อนค่า เป็นผลดีกับการส่งออก + ราคาสุกรเวียดนามเริ่มมีการ rebound +2%w-w + คาดกำไรในไตรมาส 3/63 ยังออกมาดี และรับผลกระทบ Covid-19 น้อย และยิ่งน่าสนใจเพิ่มในกลุ่มอาหาร เมื่อมองทั้ง Supply chain เมื่อกลุ่มร้านอาหาร (ปลายน้ำ) เห็นแรงกดดันที่มาเร็วและแรงมากขึ้น จากกระแส Food delivery รับยุค New Normal

ด้าน บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ราคาหมูในเวียดนามเห็นการฟื้นตัวกลับมาอีกครั้งในเดือนก.ย. หลังจากปรับตัวลงในเดือน ส.ค. ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี โดยมองว่าการ panic sell ของรายย่อยน่าจะมาๆหายๆ ในภาวะที่ ASF ยังระบาด ในด้านของราคาหมูไทยยังยืนอยู่ในระดับสูงแถว 80 บาท/กก ตั้งแต่กลางเดือน ก.ค. จนถึงตอนนี้

สำหรับประเด็นเรื่องราคาถั่วเหลืองที่ราคามีการปรับตัวขึ้นมาตามทิศทางตลาดโลกน่าจะมีผลกระทบต่อต้นทุนของผู้ผลิตในช่วงปลายไตรมาส 1/64 เนื่องจากมีการทำสัญญาล๊อคราคาต้นทุนถั่วเหลืองในระดับต่ำไว้แล้วราว 4-5 เดือน เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่ออัตรากำไรของธุรกิจหมูในครึ่งหลังปี 2563 โดยยังคงคำแนะนำ ซื้อ CPF และ TFG

Back to top button