3 โบรกฯ เชียร์ “ซื้อ” SPALI ลุ้นครึ่งปีหลังผลงานฟื้น-ปันผลปัง

3 โบรกฯ เชียร์ “ซื้อ” SPALI ลุ้นครึ่งปีหลังผลงานฟื้น-ปันผลปัง


บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้นบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI พร้อมให้ราคาเป้าหมายที่ 20 บาท ระบุว่าแนวโน้มกำไรสุทธิของ SPALI ในครึ่งหลังปีนี้จะกลับมาดีขึ้น หรือเติบโต 138% จากครึ่งปีแรก เนื่องจากมีคอนโดมิเนียมใหม่เริ่มโอน 4 โครงการ เทียบกับครึ่งปีแรกที่ไม่มีการโอนคอนโดมิเนียมใหม่ ,ยอดโอนแนวราบจะเพิ่มขึ้นตามยอดขายที่ฟื้นตัวเร็วตั้งแต่เดือน พ.ค. และอัตรากำไรขั้นต้นจะกลับมาดีขึ้น เนื่องจากคอนโดมิเนียมใหม่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น

ขณะที่ทั้งปี 63 ยังประเมินกำไรสุทธิ ลดลง 27% มาอยู่ที่ 4,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยกำไรสุทธิครึ่งปีแรก คิดเป็น 30% ของทั้งปี และคาดว่าครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวหรือเติบโต 138% จากครึ่งปีแรก จากฐานที่ต่ำและครึ่งปีหลังนี้จะมีคอนโดมิเนียมใหม่เริ่มโอน 4 โครงการ

สำหรับปี 64 ประเมินว่ากำไรจะกลับมาเติบโตโดดเด่น 20% จากปีนี้ เนื่องจากยังมีคอนโดมิเนียมใหม่เริ่มโอนต่อเนื่อง โครงการแนวราบที่จะปรับตัวดีขึ้นตามกำลังซื้อที่ฟื้นตัวและการเปิดโครงการใหม่เพิ่มขึ้น และอัตรากำไรขั้นต้นที่จะปรับตัวกลับสู่ระดับปกติราว 38-39%

ด้าน บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 19.60 บาท โดย SPALI มีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบในระดับกลางคาดว่าจะได้รับผลกระทบน้อยกว่ากลุ่ม โดยเฉพาะกำลังซื้อหดตัวและการปฎิเสธสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ อีกทั้งยังมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือที่ค่อนข้างมาก รวมถึงในครึ่งปีหลัง SPALI จะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์อีก 4 โครงการ ทำให้มองว่าแนวโน้มผลประกอบการครึ่งหลังปีนี้น่าจะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก

ทั้งนี้ จากการเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ SPALI ยังทำยอดขายได้ค่อนข้างดีอีกด้วย โดยคาดการณ์ว่ากำไรปีนี้จะอยู่ที่ 3,900 ล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรกทำได้แล้ว 1,170 ล้านบาท และคาดว่ากำไรจะมาจากครึ่งปีหลัง 2,800 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ดังกล่าวได้คำนวณปัจจัยเสี่ยงทั้งกำลังซื้อของประชาชน การปฎิเสธสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ และภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง การก่อสร้างและกำหนดโอนที่ซบเซาไปเรียบร้อยแล้ว

สำหรับราคาหุ้นของ SPALI ปัจจุบันก็อยู่ในระดับที่ยังน่าลงทุนอยู่ จาก P/E ไม่ได้สูงมาก และในปี 64 SPALI ก็ยังมีแผนเปิดตัวคอนโดมิเนียมและแนวราบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็จะช่วยหนุนยอดขาย และรายได้เติบโตมากขึ้น

ส่วนบล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” ประเมินราคาเป้าหมาย 18 บาทต่อหุ้น จากความสำเร็จของการทำยอดขายได้ดี สำหรับโครงการคอนโดมิเนียม ศุภาลัย พรีเมียร์ สี่พระยา-สามย่าน ที่เปิดตัวไปในวันที่ 26-27 ก.ย.ที่ผ่านมา ถือเป็นคอนโดมิเนียมแห่งที่ 3 ในปีนี้ สามารถทำยอดขายได้ 100% รวมถึงความสำเร็จจากการเปิดขายคอนโดมิเนียมในช่วงก่อนหน้านี้ 2 โครงการ ทำให้คาดว่ายอดขายของ SPALI ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันน่าอยู่ในระดับที่สูงกว่า 19,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3 ใน 4 ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่ 26,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ SPALI ยังมีแผนเปิดตัวโครงการแนวราบแห่งใหม่ มูลค่าโครงการมากกว่า 1 หมื่นล้านบาทในช่วงที่เหลือของปีนี้ด้วย ทำให้คาดว่าจากการเปิดตัวโครงการแนวราบนี้ก็จะช่วยหนุนยอดขายครึ่งปีหลัง และยอดขายทั้งปีให้เป็นไปตามเป้าหมายได้

นอกเหนือจากยอดขายที่น่าประทับใจจากคอนโดมิเนียมโครงการล่าสุดแล้วก็ยังมีกำไรที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจนและแข็งแกร่งในครึ่งปีหลัง จากยอดขายแนวราบที่ดี และการรับรู้รายได้จำนวนมากจากการเริ่มโอนกรรมสิทธิ์คอนโดฯ 4 แห่ง ด้วย Backlog รวมที่ 8 พันล้านบาท

ขณะที่หุ้นยังมีมูลค่าซื้อขายไม่แพง ด้วย PER ปี 63 ที่ 6.6 เท่า ประกอบกับอัตราผลตอบแทนเงินปันผล ในปีนี้ที่ 5.8% และมีงบดุลแข็งแกร่งที่ช่วยให้ SPALI มีความโดดเด่นเหนือคู่แข่งในช่วงไตรมาส 4/63

Back to top button