สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 1 ต.ค. 2563

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 1 ต.ค. 2563


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) โดยนักลงทุนยังรอคอยความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ ซึ่งขณะนี้ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสยังคงมีความเห็นที่ขัดแย้งเกี่ยวกับวงเงินของมาตรการดังกล่าว ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,816.90 จุด เพิ่มขึ้น 35.20 จุด หรือ +0.13% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,380.80 จุด เพิ่มขึ้น 17.80 จุด หรือ +0.53% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,326.51 จุด เพิ่มขึ้น 159.00 จุด หรือ +1.42%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) ขณะที่ตลาดยังคงถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และประเทศในยุโรปต้องกลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.20% ปิดที่ 361.80 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,824.04 จุด เพิ่มขึ้น 20.60 จุด หรือ +0.43%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,730.77 จุด ลดลง 29.96 จุด หรือ -0.23% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,879.45 จุด เพิ่มขึ้น 13.35 จุด หรือ +0.23%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในสหรัฐ และรัฐบาลอังกฤษส่งสัญญาณว่า จะไม่กำหนดมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,879.45 จุด เพิ่มขึ้น 13.35 จุด หรือ +0.23%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลก

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ร่วงลง 1.50 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 38.72 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.37 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 40.93 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา ซึ่งรวมถึงดัชนีภาคการผลิตที่ลดลงมากกว่าคาดในเดือนก.ย. ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 20.8 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 1,916.3 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย.ปีนี้

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 76 เซนต์ หรือ 3.23% ปิดที่ 24.254 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 3.2 ดอลลาร์ หรือ 0.35% ปิดที่ 906 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.30 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 2,328.20 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา ซึ่งรวมถึงดัชนีภาคการผลิตที่ลดลงมากกว่าคาดในเดือนก.ย. ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวลง 0.20% แตะที่ 93.7082 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9186 ฟรังก์ จากระดับ 0.9212 ฟรังก์ และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3270 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3312 ดอลลาร์แคนาดา แต่เมื่อเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 105.55 เยน จากระดับ 105.48 เยน

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1746 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1714 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2892 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2897 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7192 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7161 ดอลลาร์สหรัฐ

 

Back to top button