โบรกฯ เชียร์ “ซื้อ” ASIAN จับตาไตรมาส 4 กำไรโตต่อ หนุนทั้งปีทำออลไทม์ไฮ!

โบรกฯ เชียร์ “ซื้อ” ASIAN จับตาไตรมาส 4 กำไรโตต่อ หนุนทั้งปีทำออลไทม์ไฮ!


บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ คงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น บริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN ประเมินราคาเป้าหมายที่ 15.54 บาทต่อหุ้น แม้ว่าก่อนหน้านี้ราคามีช่วงขึ้นไปใกล้ราคาพื้นฐานที่ 15.54 บาทแล้ว แต่ล่าสุดราคาที่ปรับตัวลงมา ทำให้กลับมามีส่วนเพิ่มอีกจึงยังคงแนะนำซื้อเช่นเดิม คาดแนวโน้มผลงานของ ไตรมาส 4/63 ยังทรงตัวในระดับสูงได้ต่อเนื่อง จากการปรับกลยุทธ์การขายสินค้า โดยลดสัดส่วนการขายอาหารแช่แข็งลง และไปขายสินค้าที่มีอัตรากำไรดี และธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ คาดจะฟื้นตัวต่อเนื่องในไตรมาส 4/63 รวมถึงธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง โดยรวมจึงคาดว่าแนวโน้มธุรกิจยังทรงตัวสูงได้ต่อในไตรมาส 4 นี้

ขณะที่คาดกำไรสุทธิปี 2563 ยังเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท จากผลประกอบการ 9 เดือนแรกปีนี้มีกำไรสุทธิ 607 ล้านบาท สูงกว่าระดับสูงสุดในปี 60 ที่มีกำไรสุทธิ 418 ล้านบาทอย่างมีนัยสำคัญ

ส่วน บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น ASIAN ประเมินราคาเป้าหมายที่ 15 บาทต่อหุ้น กล่าวว่า แนวโน้มกำไรสุทธิของ ASIAN ในไตรมาส 4/63 ยังเติบโตเป็นเท่าตัว เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจากได้รับคำสั้งซื้อ OEM จนถึงสิ้นปีแล้ว แต่อย่างไรก็ตามหากเทียบกับไตรมาส 3/63 คาดว่ากำไรสุทธิจะทำได้ใกล้เคียงกัน หรือประมาณ 200 ล้านบาท จากค่าเงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่า กระทบต่อความสามารถในการทำกำไร ส่งผลทำให้คาดว่ากำไรสุทธิในปีนี้จะเติบโตเป็นกว่า 700 ล้านบาท

สำหรับทิศทางผลการดำเนินงานในปี 64 มองว่าธุรกิจแช่แข็งน่าจะฟื้นตัวดีขึ้น หากการแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลงหรือไม่มีการระบาดรอบใหม่ ซึ่งจะทำให้ร้านอาหารกลับมาเปิดบริการได้ตามปกติ, ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ยังเติบโตต่อเนื่อง แต่คงไม่โตเหมือนกับในไตรมาส 2/63 ที่มีการปิดล็อกดาวน์ ส่งผลให้คนอยู่บ้านมากขึ้นและมีเวลาอยู่กับสัตว์เลี้ยงมากขึ้น , ธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ น่าจะทรงตัว เนื่องจากสัดส่วนไม่ได้มากแล้ว

อย่างไรก็ตามธุรกิจที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักยังคงเป็น ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง จากกระแสการเลี้ยงสัตว์ในสหรัฐและยุโรปที่เพิ่มขึ้น และ ASIAN ยังมีโอกาสได้ลูกค้าใหม่จากประเทศเยอรมนีเพิ่มเติมด้วย

โดยเบื้องต้นประเมินกำไรสุทธิปี 64 ของ ASIAN น่าจะทำได้ใกล้เคียงกับปีนี้ เนื่องจากยังมีปัจจัยเสี่ยงในเรื่องของค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งคาดการณ์ว่าเมื่อเงินบาทแข็งค่าทุก 1 บาท เมื่อเทียบกับดอลลาร์จะส่งผลให้เกิด downside ต่อประมาณการกำไรสุทธิปี 64 ราว 15%

ด้าน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” ประเมินราคาเป้าหมายที่ 13.20 บาทต่อหุ้น ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานของ ASIAN ในไตรมาส 4/63 จะยังเติบโตต่อเนื่อง หลังยังได้รับประโยชน์จากความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีอยู่สูง จากการที่ผู้บริโภคใช้เวลากับสัตว์เลี้ยงและให้อาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น รวมถึงความต้องการของผู้บริโภคในด้านของอาหารกระป๋องและอาหารบรรจุถุง pouch เพราะสถานการณ์โควิดยังคงรุนแรงในต่างประเทศ

ทั้งนี้ ด้วยแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง ทำให้คาดกำไรปี 63 จะเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ จาก 9 เดือนแรกปีนี้ที่มีกำไรสุทธิแล้ว 607 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับทั้งปี 62 ที่ทำได้เพียง 132.70 ล้านบาท

 

Back to top button