IRPC แรลลี่ยาว 9 วันพุ่ง 34% นิวไฮรอบ 4 เดือน ลุ้นกำไร Q4 สดใสรับดีมานด์น้ำมัน-ปิโตรฯฟื้น

IRPC แรลลี่ยาว 9 วันพุ่ง 34%  นิวไฮรอบ 4 เดือน ลุ้นกำไรไตรมาส 4 สดใสรับดีมานด์น้ำมัน-ปิโตรฯฟื้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC ณ เวลา 10.08 น. อยู่ที่ระดับ 2.84 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 3.65% สูงสุดที่ระดับ 2.84 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.76 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 123.18 ล้านบาท โดยราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุด (นิวไฮ) อีกครั้งในรอบ 2 เดือน นับตั้งแต่ราคาปิดที่ระดับ 2.84 บาท เมื่อวันที่ 9 ก.ค.63

นางสาวกัญญามาส ฤทธิเดช ผู้จัดการฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ IRPC เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2563 คาดความต้องการ (ดีมานด์) ใช้ทั้งน้ำมันและปิโตรเคมีจะเริ่มกลับมา ซึ่งราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่บริษัทตั้งเป้าหมายมีปริมาณการกลั่นในไตรมาส 4/2563 อยู่ที่ 1.94-1.95 แสนบาร์เรลต่อวัน เทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี 2563 อยู่ที่ 1.88-1.89 แสนบาร์เรลต่อวัน ดังนั้นโดยรวมทั้งปี 2563 คาดว่าจะมีปริมาณการกลั่นเฉลี่ยอยู่ที่ 1.90-1.95 แสนบาร์เรลต่อวัน

ส่วนในปี 2564 บริษัทคาดว่าจะสามารถเพิ่มปริมาณการกลั่นขึ้นเป็น 2 แสนบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ทำให้ดีมานด์เริ่มกลับเข้ามามากขึ้น

ขณะที่คาดว่าส่วนต่างราคา (สเปรด) ปิโตรเคมีจะกลับมาฟื้นตัว และหากราคาน้ำมันยังยืนที่ระดับนี้ ล่าสุดน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 43 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล คาดว่าในไตรมาส 4/2563 จะมีกำไรจากสต๊อกน้ำมัน (สต๊อกเกน) ประกอบกับบริษัทได้ปรับลดเงินลงทุนตามแผน 5 ปี (ปี 2563-2567) เหลือ 2.8 หมื่นล้านบาท จากเดิม 5.3 หมื่นล้านบาท ส่วนหนึ่งจะใช้ในโครงการ Ultra Clean Fuel (UCF)

นอกจากนี้ แม้ว่าบริษัทจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก แต่บริษัทได้มีการปรับตัวและวางกลยุทธ์หลัก ๆ 4 แนวทาง ได้แก่

  1. Maximize Assets Value เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มสินทรัพย์ที่มีอยู่ อาทิ โครงการ Floating Solar, ABS Expansion, Ultra Clean Fuel และ Strengthen IRPC
  2. กลยุทธ์ Specialty Products Enhancement การเพิ่มสัดส่วนการผลิตสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษ (Specialty grade) ซึ่งตั้งเป้าสัดส่วนการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 30% ภายในปี 2567 จากปัจจุบันอยู่ที่ 13% โดยจะเน้นไปที่เม็ดพลาสติกเกรดที่ใช้สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ และเม็ดพลาสติกชนิดความหนาแน่นสูงและทนทานมากกว่าโพลีเอทิลีนทั่วไป 10 เท่า หรือ UHMW-PE (Ultra High Molecular Weight Polyethylene) ที่นำไปใช้ในงานผลิตแผ่นกั้นแบตเตอรี่ (Battery separator) ข้อเข่าเทียม เชือกลากจูงเรือ เป็นต้น
  3. Streamline Work Process คือการปรับการทำงาน และการลดต้นทุนของบริษัท
  4.  Sustaining the Future through (ESG) การดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล

สำหรับความคืบหน้าโครงการ ABS Expansion ขนาดกำลังการผลิต 6,000 ตันต่อปี ปัจจุบันมีความคืบหน้าแล้ว 96% คาดว่าจะเริ่ม COD ในไตรมาส 2/2564 โดยใช้งบลงทุน 430 ล้านบาท และมีผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ประมาณ 17% ส่วนโครงการ UCF ปัจจุบันมีความคืบหน้าแล้ว 9% คาดว่าจะสามารถจัดหาผู้รับเหมาได้ภายในสิ้นปี 2563 ซึ่งโครงการนี้จะดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) ในไตรมาส 2/2566

Back to top button