CPF บวกเกือบ 3% รับราคาหมูในจีน-เวียดนามปรับสูงขึ้น แนะซื้อเป้า 38 บาท    

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF  ณ เวลา 11.41 น. อยู่ที่ระดับ 28.75 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 2.68% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 921.20 ล้านบาท

บล.คิงส์ฟอร์ด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า  แนวรับ 1,520  1,530 แนวต้าน 1,550 ยังขาดแรงหนุนจาก Fund Flow หลังดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่า ขณะที่ Valuation ของดัชนีเริ่มแพงขึ้น แนะนำเก็งกำไร CPF, TFG (+ราคาหมูในจีน เวียดนามปรับสูงขึ้น) / STA, NER / PSL, TTA

บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ราคาหมูในเดือน ธ.ค.63 อยู่ที่ 73 บาท/กก. ลดลงจาก 80 บาทในช่วงก่อนหน้าจากความกังวลการระบาดของไวรัส PRRS ในหมู แต่อย่างไรก็ตาม ราคาหมูในเดือน ม.ค. ได้กลับมาเหนือ 80 บาท อีกครั้งในต้นปี 2564 หนุนโดยอุปทานที่ขาดแคลน สำหรับปี 2564 คาดราคาหมูที่ 75 บาท/กก. คงที่ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการส่งออกที่ดีขึ้น, การบริโภคที่ฟื้นตัว และอุปทานที่จำกัดของผู้ประกอบการรายย่อยเช่นเดียวกับในจีนและเวียดนาม แม้ว่าต้นทุนของ CPF จะเพิ่มขึ้นจากอาหารสัตว์ในปี 2564 ยังคงแนะนำให้ ซื้อ

CPF ถูกกดดันตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/2563 เป็นต้นไปจากราคากากถั่วเหลืองที่เพิ่มขึ้น (+27% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ในเดือน ธ.ค.) แต่อย่างไรก็ตาม CPF ได้มีการตุนสต็อคเอาไว้แล้วที่ 14-15 บาท/กก. ทำให้อัตรากำไรจะยังดีต่อเนื่องในไตรมาส4/2563  ไตรมาส1/2564 และเชื่อว่าตลาดสะท้อนราคากากถั่วเหลืองที่เพิ่มขึ้นนี้ต่อราคาหุ้นมากเกินไป และคาดอัตรากำไรปี 2564-2565 ที่ 16% และ 15.8% สูงกว่าในปี 2017-2019 ที่ 12.8%

คาดผลประกอบการปี 2564 และ ปี 2565  ที่ 2.15 หมื่นล้านบาท และ 2.11 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ ลดลงจากปี 2563 แต่ยังนับว่าสูงจากราคาหมูที่ทรงตัว และภาวะอุปทานที่อ่อนแอจนถึงปี 2565 หลังผลกระทบของโรค ASF เริ่มหายไป และได้รวมผลกระทบทางการเงินของ TESCO และ CCP เข้าไปในประมาณการ แนะนำให้ ซื้อ โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 38.00 บาท (SOTP)