“โกลเบล็ก” คาด SET สัปดาห์นี้ Sideway ชู 3 หุ้นปลอดภัย-ราคา Laggard

"โกลเบล็ก" คาด SET สัปดาห์นี้ Sideway ชู 3 หุ้นปลอดภัย-ราคา Laggard


บล.โกลเบล็ก (GLOBLEX) ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นลักษณะ Sideway Up ในกรอบ 1,510-1,570 จุด โดยมีแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าสหรัฐจะออกมาตรการกระตุ้นกระเศรษฐกิจเพิ่มเติมภายใต้การบริหารของรัฐบาลชุดใหม่ของนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกอบกับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง

สำหรับปัจจัยที่น่าจับตาภายในประเทศ ได้แก่ วันที่ 12 ม.ค. มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณามาตรการเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ กระทรวงการคลังเตรียมเสนอมาตรการทางการเงินของสถาบันการเงินเฉพาะกิจพักหนี้ และการออกสินเชื่อเพื่อเติมเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยเฉพาะในจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุด และช่วงปลายสัปดาห์นี้จนถึงวันที่ 21 ม.ค. หุ้นธนาคารส่งงบการเงินประจำปี 63

อีกทั้งปัจจัยที่น่าจับตาสำหรับต่างประเทศนั้น วันที่ 12 ม.ค. สหรัฐ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อม การเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน  และสหภาพยุโรป (อียู) เปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. วันที่ 13 ม.ค. สหรัฐเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อ สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเช้าวันที่ 14 ม.ค. สุดท้ายวันที่ 14 ม.ค. จีนเปิดเผยดุลการค้า ยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ยอดขายรถ และยอดปล่อยกู้สกุลเงินหยวน

ทั้งนี้ นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวเพิ่มว่า สำหรับปัจจัยเชิงบวก อาทิ ตลาดคคาดหวังว่าสหรัฐจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหลังจากนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค. อีกทั้งราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มต่อเนื่อง หลังซาอุดีอาระเบียรับอาสาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบอีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในช่วงเดือน ก.พ. และมี.ค. 64 ชดเชยที่รัสเซียและคาซัคสถานปรับเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรักษาระดับราคาน้ำมันและรักษาสมดุลตลาดในช่วงที่ความต้องการใช้น้ำมันอ่อนแอจากมาตรการล็อกดาวน์ในหลายประเทศ

นอกจากนี้คาดว่ารัฐบาลจะออกมาตรการเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ทั้งมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการพักหนี้และการออกสินเชื่อเพิ่มเติม สุดท้ายทั่วโลกมีความคืบหน้า อียูทำข้อตกลงซื้อวัคซีนโควิด-19 จากไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคอีก 300 ล้านโดส ในไทยกระทรวงสาธารณสุขก็เล็งขึ้นทะเบียนวัคซีนวันวาเลนไทน์ พร้อมฉีดวัคซีนให้กับประชาชนต่อไป เน้นกลุ่มเสี่ยงและผู้สูงวัย ดังนั้นประเมินกลยุทธ์การลงทุนในหุ้น Defensive และได้ผลดีจากนโยบายไบเดน ได้แก่ BGRIM  GPSC  หุ้น Laggard play ได้แก่  ADVANC INTUCH BBL

ส่วนภาพรวมของการลงทุนในทองคำนั้น นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ราคาทองคำในปี 2564 จะยังคงผันผวนโดยมีปัจจัยหนุนจากผลกระทบทางเศรษฐกิจของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ต่อเนื่องมาจากปี 2563 ส่งผลให้เฟดยังคงซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อเนื่องส่งผลให้งบดุลของเฟดมีการขยายตัวต่อเนื่องสู่ 7.4 ล้านล้านดอลลาร์ และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่คาดว่าจะกลับมารุนแรงขึ้นเนื่องจากสหรัฐต้องการปกป้องภาคการผลิตในประเทศ

อย่างไรก็ตามการค้นพบวัคซีนโควิด-19 จะเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำเนื่องจากรัฐบาลทั่วโลกจะต้องถอนเม็ดเงินที่ใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อซื้อวัคซีนมาฉีดให้แก่ประชาชนในประเทศ ส่งผลให้ปริมาณเงินในระบบลดลงและเป็นปัจจัยกดดันต่อทองคำ

ด้านเทคนิค ราคาทองคำโลกในปี 2563 มีการสร้างจุดสูงใหม่ (All time high) ที่ 2,074 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นสัญญาณของการปรับตัวขึ้นรอบใหม่ อย่างไรก็ตามการค้นพบวัคซีนทำให้ทองคำได้รับความสนใจในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง ทั้งนี้ คาดว่ากรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำโลกในปี 2564 อยู่ที่ 1,690-2,000 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

Back to top button