PRIME ปักธงรายได้ปีนี้ 2 พันลบ. รับแผนขยายกิจการ-รุกประมูลโรงไฟฟ้า 255MW

PRIME ปักธงรายได้ปีนี้ 2 พันลบ. รับแผนขยายกิจการ-รุกประมูลโรงไฟฟ้า 255MW


นายสมประสงค์ ปัญจะลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIME เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 64 จะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 2,000 ล้านบาท โดยจะมีรายได้จากกำลังการผลิตไฟฟ้าที่จ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว 87.2 เมกะวัตต์ มูลค่าราว 600-700 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 94.5 เมกะวัตต์ ในประเทศไต้หวัน ประเทศกัมพูชา และประเทศญีปุ่น บริษัทได้รับใบอนุญาตขายไฟฟ้า (PPA) แล้ว และอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการ

สำหรับงานรับเหมาก่อสร้างติดตั้งโซลาร์รูฟในรูปแบบของสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับหน่วยงานเอกชนกับเอกชน (Private PPA) ตั้งเป้ารายได้ราว 700 ล้านบาท โดยปัจจุบันได้มีกาเจรจาอย่างต่อเนื่องคาดว่าจะทยอยเห็นความชัดเจนของโครงการต่างๆตลอดทั้งปีนี้ ส่วนธุรกิจซื้อขายวัสดุอุปกรณ์เกี่ยวกับอุตสาหกรรมพลังงาน คาดว่าจะมีรายได้ราว 500 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจออกแบบ ติดตั้ง และให้คำปรึกษาด้านนวัตกรรม เช่น เทคโนโลยี IOT สำหรับบริหารจัดการพลังงานของอาคาร ที่ปัจจุบันได้รับความสนใจจากทั้งหน่วยราชการต่างๆ และผู้ประกอบการหลายๆรายที่จะเข้ามาช่วยจัดการด้านพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ทั้งนี้บริษัทได้วางงบลงทุนในการขยายกิจการปีนี้ราว 1,500-3,000 ล้านบาท เพื่อที่จะใช้ในการขยายกิจการ ทั้งโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และโครงการใหม่ๆที่บริษัทจะเข้าประมูลเพิ่มเติม โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการรอความชัดเจนของผลการเข้าประมูลโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ National Solar Park Phase 2 ของรัฐบาลกัมพูชา กำลังผลิตติดตั้ง 55 เมกะวัตต์ และโครงการ Sherabed Solar PV PPP Project ในประเทศอุซเบกิสถาน กำลังผลิตตามสัญญา 200 เมกะวัตต์

อีกทั้งยังมีโครงการที่เตรียมเข้าประมูลในประเทศไต้หวัน ประเทศญีปุ่น และอื่นๆ อีกหลายประประเทศที่ต้องการลงทุนด้านพลังงานสะอาด และเพื่อที่จะให้มีความมั่นคงด้านพลังงานมากยิ่งขึ้นด้วย โดยคาดว่าทั้งปีนี้บริษัทจะเข้าประมูลไม่ต่ำกว่า 255 เมกะวัตต์

นอกจากนี้บริษัทยังคงมองหาการเข้าซื้อกิจการ (M&A) หรือการเข้าร่วมลงทุน(JV) ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องและสามารถสร้างโอกาสการเติบโตที่มากยิ่งขึ้น

ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ระดับ 1.08 เท่า ซึ่งบริษัทวางแผนไว้ที่จะมีระดับ D/E ที่ 3 เท่า บริษัทจึงยังมีโอกาสที่จะสามารถลงทุนได้อีกมาก และในขณะเดียวกันบริษัทยังมองหาเครื่องมือทางการเงินอื่นๆเข้ามาช่วยหนุนการลงทุนโครงการต่างๆเพิ่มเติมด้วย

 

 

Back to top button