AP ปักเป้ารายได้ปีนี้วิ่งสู่ 4.31 หมื่นลบ. ทำนิวไฮ เปิดแผนลุยซื้อที่ดินช่วงโควิดระบาด

AP ปักเป้ารายได้ปีนี้วิ่งสู่ 4.31 หมื่นลบ. ทำนิวไฮ เปิดแผนลุยซื้อที่ดินช่วงโควิดระบาด


นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ AP เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 64 แตะระดับ 4.31 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือเป็นการทำสถิติสูงสุดใหม่ จากปีก่อนหน้าที่มีรายได้ 2.98 หมื่นล้านบาท โดยมองว่าในปี 2564 ยังเป็นปีที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต้องเจอกับความท้าทาย อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงเดินหน้าในการสร้างรายได้ทั้งการโอนโครงการที่สร้างเสร็จใหม่ในปีนี้ 2 โครงการคือ Life ASOKE hype และ Life LADPROA VALLEY ซึ่งปัจจุบันมียอดขายแล้ว 70% และเริ่มทยอยโอนในไตรมาส 3/64

ขณะเดียวกัน ในปีนี้ยังมีการขายโครงการแนวราบซึ่งตั้งเป้าที่ระดับ 2.8 หมื่นล้านบาท รวมทั้งโครงการแนวราบที่เปิดใหม่ และโครงการแนวราบที่จะโอนต่อเนื่องมาในปี 64 ขณะที่แผนการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้บริษัทวางแผนเปิดโครงการไว้ที่ 34 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 4.3 หมื่นล้านบาท

ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมในปี 64 วางแผนเปิด 4 โครงการ มูลค่า 1.42 หมื่นล้านบาท โดยเป็นโครงการร่วมทุนกับพันธมิตรญี่ปุ่น 2 โครงการ มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท โดยทำเลที่จะเปิดคอนโดมิเนียมในปี 64 จะเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อเป็นหลักภายใต้แบรนด์ Life ในทำเลราชปรารภ สาทร และลาดพร้าว

โดยจะทำการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่จะเปิดในช่วงครึ่งปีหลังทั้งหมด เนื่องจากบริษัทจะต้องยังรอดูสถานการณ์ของตลาดคอนโดมิเนียม ซึ่งปัจจุบันบริษัทยังมองว่าตลาดคอนโดมิเนียมยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่องจากปีก่อน และลูกค้าที่ซื้อคอนโดมิเนียมในช่วงนี้จะเน้นโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่เป็นหลัก

นอกจากนี้ในปี 64 บริษัทจะมีการรับรู้รายได้ในปี 64 เข้ามาไม่ต่ำกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท จากมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ทั้งหมด 3.79 หมี่นล้านบาท โดยที่จะมีการโอนโครงการแนวราบเข้ามาทั้งหมด 1.24 หมื่นล้านบาทในปีนี้ ส่วนคอนโดมิเนียมที่ Backlog อยู่ที่ 2.54 หมื่นล้านบาท จะทยอยรับรู้ในปี 64-66 และยังคงระบายสต็อกที่มีมูลค่ากว่า 7.88 หมื่นล้านบาท จาก 113 โครงการอย่างต่อเนื่อง

ด้านยอดขายในปี 64 บริษัทตั้งเป้าที่ 3.55 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้นับตั้งแต่ต้นปีถึงล่าสุดวันที่ 15 ก.พ. 64 บริษัททำยอดขายได้ 4.5 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 37% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยที่มียอดขายจากโครงการแนวราบเป็นตัวผลักดันหลักที่ทำได้ 4.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้น 50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนคอนโดมิเนียมทำยอดขายไปได้แล้ว 400 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมองว่ายอดขายที่ทำได้ล่าสุดเป็นสัญญาณที่ดีที่จะทำให้ยอดขายในปีนี้ทำได้ตามเป้าหมาย

ขณะที่บริษัทตั้งงบซื้อที่ดินในปี 64 ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท โดยการซื้อที่ดินในปีนี้บริษัทมองว่าการแข่งขันในการซื้อที่ดินไม่สูงมากหลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเหมาะกับการซื้อเพื่อลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการในอนาคต

 

 

 

 

Back to top button