NUSA จับมือ “ธนัทเฮิร์บ พาณิชย์” สร้างเมืองสุขภาพครบวงจร

NUSA จับมือ “ธนัทเฮิร์บ พาณิชย์” สร้างเมืองสุขภาพครบวงจร


บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA และ บริษัท ธนัทเฮิร์บ พาณิชย์ จำกัด 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ ผนึกกำลังกันเป็นพันธมิตร เพื่อสร้างเมืองสุขภาพครบวงจร ดันประเทศไทยให้เป็นฮับด้านสุขภาพของเอเชีย ภายใต้แนวคิด Post Covid Drive Medical Cannabis Tourism สร้าง Pilot Project : Big Project Medical Hub @ Health & Wellness Valley ปักหมุดพื้นที่นำร่องที่ “มายโอโซน เขาใหญ่” แหล่งโอโซนโลก ให้เป็น “มายโอโซน เขาใหญ่ @ เมืองสุขภาพกัญชาระดับเวิลด์คลาส”

โดยความร่วมกับ วิสาหกิจชุมชนสมุนไพร ทีเอ็นเอช, วิสาหกิจชุมชนสมุนไพรไทยทุ่งทะเล โคราช, บริษัท สยาม ซีบีดี ฟาร์ม เพื่อสังคม จำกัด และ วิสาหกิจชุมชนกว่า 100 แห่ง ในการสร้างชุมชนเกษตรและร่วมพัฒนาระบบนิเวศการเชื่อมโยงเกื้อกูลเศรษฐกิจเกษตรสมัยใหม่ระดับฐานรากให้เกิดเป็นวิสาหกิจสร้างสุขภาพอันจะเป็นพื้นฐานนำไปสู่เศรษฐกิจสุขภาพและชุมชนมีความเข้มแข็งยั่งยืน ภายใต้รูปแบบการขับเคลื่อนการสร้างพื้นที่ “Cannabis Farm Valley & Contract Farming”

ทั้งนี้บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ธนัทเฮิร์บ พาณิชย์ จำกัด จะให้การสนับสนุน วิสาหกิจชุมชนในพื้นที่และทั่วประเทศ ยกระดับการใช้เทคโนโลยีด้านการปลูก กัญชา กัญชง กระท่อม ซึ่งเป็นพืชเสพติดให้คุณทางการแพทย์ อุตสาหกรรมทางการแพทย์ อุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่มและยา เครื่องสำอาง อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมสร้างมูลค่าเพิ่มที่มีมูลค่าสูง และการสร้างหน่วยผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์กัญชา กัญชง กระท่อม ที่ถูกกฎหมาย และการวิจัยพัฒนาเพื่อให้ได้สารสำคัญจากพืชกัญชา กัญชง ที่มีมูลค่าสูงในตลาดโลก เช่น สาร CBD, CBG, CBN โดยมีนโยบายและพันธกิจที่สำคัญ 5 ด้าน ดังนี้

(1) ด้านองค์ความรู้ วิจัย ส่งเสริมและสร้างรายได้ให้เกษตรกร (Academic & Promotion) : เพื่อให้การสนับสนุนและส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน ได้มีความรู้ด้านการปลูกที่ถูกต้องตามกฎหมาย และการเก็บเกี่ยวกัญชาที่ถูกหลักมาตรฐาน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อเพิ่มคุณภาพผลผลิต ตลอดจนการวิจัยพัฒนา การแปรรูป การสกัดสารสำคัญ การจัดหาแหล่งตลาดรับซื้อ การตลาดต่างประเทศ ซึ่งเป็นการส่งเสริมอย่างครบวงจรและยั่งยืน

ทั้งนี้ ได้เตรียมการจัดตั้ง “Investor & Start Up” เพื่อประสานแหล่งเงินทุนให้กับวิสาหกิจชุมชน 100 แห่ง เพื่อทำการปลูกกัญชาตามขั้นตอนของกฎหมายในรูปแบบข้อตกลงที่มีพันธะสัญญาระหว่างกัน (Contract Farming) สามารถนำผลผลิตไปจำหน่ายสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรที่เป็นสมาชิก โดยมีบันทึกความเข้าใจ (MOU) และข้อตกลงความร่วมมือ (MOA) กับหน่วยงานรัฐ ในด้านการปลูกกัญชาเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และเชิงพาณิชย์ได้

(2) ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์กัญชาคุณภาพ (Product) : ส่งเสริมด้านการปลูกกัญชามาตรฐาน ทางการแพทย์ทั้งในรูปแบบโรงเรือนและฟาร์ม เพื่อนำผลผลิต “ช่อดอกกัญชา” ที่เป็นยาเสพติดให้ โทษ บริจาคให้ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก (DTAM) สำหรับใช้ผลิตน้ำมันกัญชา (DTAM License) เพื่อรักษาผู้ป่วยกลุ่ม SAS และสนับสนุนในส่วนของ “ใบ เปลือก ก้าน ต้น ราก” ที่ไม่ใช่ยาเสพติดให้โทษ ไปพัฒนาและผลิตเป็นผลิตภัณฑ์จำหน่ายให้กับกลุ่มผู้มีใบวิชาชีพ โรงพยาบาล สถานพยาบาล คลินิกการแพทย์แผนไทย คลินิกกัญชาทางการแพทย์ และนำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ สร้างมูลค่าอันเป็นคุณประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนคนไทย และ ทำการจัดทำแพลตฟอร์ม “Cannabis Platform” เพื่อสร้างการรับรู้ในระดับตลาดโลก เพื่อเป็นช่องทางการสร้างรายได้เข้าประเทศ

(3) ด้านการรักษาและส่งเสริมให้เกิดเป็นสถานพยาบาลด้านการรักษา (Health) : จัดตั้งศูนย์ คลินิกด้านการรักษาด้วยศาสตร์ของกัญชาและสมุนไพร ด้วยรูปแบบการแพทย์ผสมผสาน การแพทย์ แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก ลดความเหลื่อมล้ำด้านการรักษาให้กับผู้ป่วย และ สร้างระบบนิเวศ เชื่อมโยงกับคลินิกกัญชาทางการแพทย์ไม่น้อยกว่า 1,000 แห่ง เพื่อสร้างสุขภาพที่ดีให้กับประชาชน

(4) ด้านการฟื้นฟูและดูแลสุขภาพ (Wellness) : ทำการปักหมุดให้พื้นที่ “มาย โอโซน” แหล่ง โอโซนระดับโลก เป็นศูนย์สุขภาพเวชศาสตร์กัญชาระดับเวิลด์คลาส “Medical Hub @ Health & Wellness” เพื่อดึงดูดให้กลุ่มนักท่องเที่ยวรายได้ดี เดินทางมารักษาและฟื้นฟูสุขภาพในประเทศไทย แบบระยะยาว ช่วยแรงงานทักษะสูงได้มีรายได้ดี เกิดการจ้างงานสร้างรายได้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย กระทรวงสาธารณสุขด้านการใช้พืชกัญชาสร้างเศรษฐกิจสุขภาพ

(5) ด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Cannabis Tourism Program) : กำหนดรูปแบบกลยุทธ์ให้ “มาย โอโซน” เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีจุดขายใหม่ (Magnet) เช่น เที่ยวชมฟาร์มกัญชา การเยี่ยมชม กระบวนการผลิตและแปรรูปกัญชา การฝึกทำอาหารที่มีส่วนปรุงผสมกัญชา (ในส่วนที่ไม่ใช่ยาเสพติด) โปรแกรมการรักษาและฟื้นฟูสุขภาพด้วยศาสตร์กัญชา และ การเชื่อมโยงไปถึงแหล่งท่องเที่ยวทั้งใน ระดับพื้นที่ใกล้เคียงและส่วนภูมิภาค เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจวิถีใหม่ตามนโยบายของรัฐบาล

ทั้งนี้ บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) ยังมีแพลตฟอร์มและเครือข่ายที่เข้มแข็ง ตอบสนองต่อ นโยบายด้านการท่องเที่ยวของประเทศ (ททท.) ในด้านการดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศ อีกทั้ง ยังมีพันธมิตรที่สำคัญ คือ บริษัท ธนัทเฮิร์บ พาณิชย์ จำกัด ซึ่งอยู่ในวงการอุตสาหกรรมผลิตสมุนไพร และอาหารเสริม และดำเนินนโยบายเพื่อสังคม (CSR) ควบคู่กันมามากกว่า 14 ปี ซึ่งในขณะนี้ได้นำบริษัทอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ที่สหรัฐอเมริกา รหัสในตลาดหลักทรัพย์ คือ SUANG FENG SHOU PLL & FUXI  PLL ซึ่งเป็น บริษัทที่ดูแลด้านสุขภาพและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับกัญชา มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในตลาดสหรัฐอเมริกา

Back to top button