วิกฤติ คือ โอกาส

* ดูเหมือนแฟนคลับของ “โมนิก้า” จะมีความเข้าใจสเต็ปการช้อนหุ้นเป็นอย่างดี จึงไม่มีอาการตระหนกเมื่อดัชนีทรุดตัวลงแรงไปถึง 20 จุดตั้งแต่เปิดเทรด เพราะเคยเรียนรู้กับโควิด-19 ระบาดรอบสองมาแล้ว ส่งผลให้การระบาดรอบสามไม่ระคายเคืองการลงทุน ผนวกกับทุกคนมีแนวทางรับมือการระบาดรอบถัดไป จึงเชื่อได้ว่า ทุกอย่างจะดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในไม่ช้าไงละคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

* ดูเหมือนแฟนคลับของ “โมนิก้า” จะมีความเข้าใจสเต็ปการช้อนหุ้นเป็นอย่างดี จึงไม่มีอาการตระหนกเมื่อดัชนีทรุดตัวลงแรงไปถึง 20 จุดตั้งแต่เปิดเทรด เพราะเคยเรียนรู้กับโควิด-19 ระบาดรอบสองมาแล้ว ส่งผลให้การระบาดรอบสามไม่ระคายเคืองการลงทุน ผนวกกับทุกคนมีแนวทางรับมือการระบาดรอบถัดไป จึงเชื่อได้ว่า ทุกอย่างจะดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในไม่ช้าไงละคะ

* ยิ่งมองในมุมของ “วิกฤติ” คือ “โอกาส” ที่มีให้เห็นหลายรอบ และแฟนคลับหลายคนฉวยจังหวะดังกล่าวไว้ได้ ยิ่งเพิ่มความกระสันอยากเก็บหุ้นให้ได้มากสุดเท่าที่จะทำได้ วานนี้ถึงเห็นดัชนีเด้งกลับขึ้นมาแถว ๆ 1,570 จุด ก่อนจะโดนทุบในช่วงท้ายตลาด จนลงมาปิดไปที่ระดับ 1,556.56 จุด ลบไปถึง 23.10 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.07 แสนล้านบาทแบบนี้..มันเป็นจังหวะที่ต้องสวนสำหรับคนที่เน้นเล่นยาวอ๊ะป่าว?

* ข้อมูลทั้งหมดทำให้ “โมนิก้า” ยังเพลิดเพลินกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน เพราะหลายคนสามารถปรับตัวให้เข้ากับเหตุการณ์ได้ในระดับหนึ่ง และยังถูกย้ำหัวหมุดมาตลอดว่า เราต้องอยู่กับเหตุการณ์ในลักษณะนี้จนถึงปลายปี 2564 เดี๊ยนถึงมองการขยับตัวของหุ้นไทยมีเรื่องราวที่น่าติดตามเยอะแยะไปหมด แถมยังมีหุ้นเด็ด ๆ ที่น่าเล่นอีกหลายตัวด้วยกัน จึงขอไล่เรียงไทม์ไลน์หุ้นที่เป็นกระแสไปทีละตัวนะคะ

* เริ่มแรกขอไปที่หุ้นฮอตฮิตอย่างถุงมือยาง STGT เพื่อเข้ากับกระแสโควิดระบาดกันสักหน่อย เพราะการขึ้นมายืนปิดที่ 44.75 บาท บวกไป 2.75 บาท หรือขึ้นไป 6.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.04 พันล้านบาท มันมีความหมายในตัวของมันเองอยู่แล้ว “โมนิก้า” คงไม่ต้องเม้าท์อะไรให้ฟังเยิ่นเย้อ ผนวกกับเก็งกันว่า ไตรมาส 1 จะโชว์กำไรโตระเบิดระเบ้อ จึงกลายเป็นตัวเร่งให้นักเล่นเข้ามาลุยหุ้นแบบจัดหนักอีกยกเจ้าค่ะ

* รายถัดมาที่ได้รับอานิสงส์เต็ม ๆ คงมองไปที่ COM7 อีกเช่นเคย โดยเฉพาะในมุมของวิถี “นิวนอร์มอล” ถือเป็นจุดที่แม่น้ำทุกสายไหลรวมที่หุ้นตัวนี้ วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 67.25 บาท บวกไป 3.75 บาท หรือขึ้นไป 5.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.95 พันล้านบาทแบบสบายเกือก เพราะทุกคนประเมินแบบคร่าว ๆ ว่า ผลงานไตรมาส 2 น่าจะโตต่อเนื่อง จึงเป็นจังหวะของการเข้ามาเล่นเก็งกำไรแบบสุดซอยนะตัวเอง

* อีกรายที่มาแบบเนิบ ๆ แต่หนักแน่นสุด ๆ “โมนิก้า” คงมองไปที่ “พยัคฆ์ร้าย เสือหมอบ” อย่างหุ้น STARK เพื่อบอกเล่าความเป็นไปที่เกิดขึ้นบนกระดานหุ้น หลังหุ้นทำท่าเหมือนจะหมดแรงข้าวต้มในช่วงเช้า พอสาย ๆ กลับฟิตปึ๋งปั๋งขึ้นมาเสียอย่างนั้น หุ้นเลยขึ้นมายืนปิดที่ 4.54 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 3.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.64 พันล้านบาท เหมือนสื่อความหมายให้รู้ว่า เที่ยวนี้ซัดขวายาว อ๊ะป่าว?

* ไหน ๆ ก็มาในธีมเล่นเก็งกำไรกันทั้งที “โมนิก้า” ขอขยับไปดูหุ้น DEMCO เพื่อบอกเล่าอาการเปิดกระโดดที่เกิดขึ้นคราวนี้ น่าจะเป็นการส่งสัญญาณการเล่นรอบใหม่แหง ๆ หุ้นถึงขึ้นมาปิดที่ 3.78 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 5.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 320 ล้านบาท บวกกับสองสามครั้งก่อนหน้า เคยพยายามเทคตัวเพื่อไปต่อ แต่สุดท้ายก็ม้วนตัวลงมาอยู่ที่ฐานแนวรับ 3.40 บาท จึงกลายเป็นช็อตที่ต้องตามไปดูนะคุณพี่!

* หากต้องการตามไปดูจริง ๆ ก็ควรมีหุ้นโลจิสติกส์อย่าง SONIC รวมอยู่ในลิสต์ดังกล่าวด้วยอีกตัว เพราะการขยับขึ้นไปถึง 3.48 บาท แต่สุดท้ายลงมาปิดที่ 3.10 บาท ลบไป 0.12 บาท หรือลงไป 3.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 214 ล้านบาท มันคือการเล่นเกมชักเย่อที่เห็นบ่อยมากในตลาดเอ็มเอไอ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับประเมินกันเอาเองว่า หุ้นจิ๋วแต่แจ๋วรายนี้น่าสนใจไหมเอ่ย?

* เรื่องนี้ทำให้เดี๊ยนสนใจหุ้น PHOL ขึ้นมาทันที หลังกระชากขึ้นมายืนปิดที่ 3.34 บาท บวกไป 0.52 บาท หรือขึ้นไป 18.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 170 ล้านบาท มันไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่มาจากผลงานที่โตวันโตคืน แถมวันนี้หุ้นเทรดบนค่า PE 8 เท่า จึงกลายเป็นเป้าสายตานักเก็งกำไรในทันที “โมนิก้า” ถึงมองว่า รอบนี้จะซัดหนัก แบบไม่ต้องกลัวโควิดกันเลยแน่ ๆ เพราะปัจจัยหลายอย่างมันเข้าทางปืนนะออเจ้า!

* ป.ล. วานนี้ฝรั่งใช้จังหวะที่ตลาดทรุดตัวลงหนักเก็บหุ้นเข้าพอร์ตมากถึง 2.70 พันล้านบาท มันเป็นภาพที่ชี้ชัดได้ดีสุดว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีเสน่ห์ในสายตานักลงทุนต่างชาตินะจ๊ะ

Back to top button