SSP จ่ายปันผล หุ้น-เงินสด พ่วงวอแรนต์! ลุย COD โซลาร์ฟาร์ม-วินด์ฟาร์ม ครึ่งปีหลัง 68 MW

ผู้ถือหุ้น SSP ไฟเขียวอนุมัติจ่ายปันผลงวดปี 2563 เป็นหุ้น ในอัตรา 10 หุ้นสามัญต่อ 1 หุ้นปันผล และจ่ายเป็นเงินสดในอัตรา 0.011111 บาท/หุ้น กำหนดขึ้น XD วันที่ 13 พ.ค.64  พร้อมแจกวอแรนต์ SSP-W1 และ SSP-W2 ฟรี! ขณะที่บริษัทลุย COD “โซล่าร์ฟาร์ม 20 MW”-“วินด์ฟาร์ม 48 MW” ภายในปี 2564


นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 อนุมัติจ่ายปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานในปี 2563 เป็นหุ้นในอัตรา 10 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล จ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.011111 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 13 พฤษภาคม 2564 กำหนดจ่ายวันที่ 28 พฤษภาคม 2564

ขณะเดียวกัน อนุมัติแจกวอแรนต์ (SSP-W1) ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 10 หุ้นสามัญต่อ 1 หน่วย มีอายุ 8 เดือน อัตราการใช้สิทธิ 1 หน่วย ต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ที่ราคาใช้สิทธิ 12.00 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XW วันที่ 14 มิถุนายน 2564

นอกจากนี้ ยังแจกวอร์แรนต์ (SSP-W2) ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 4 หุ้นสามัญต่อ 1 หน่วย มีอายุ 3 ปี 11 เดือน อัตราการใช้สิทธิ 1 หน่วย ต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ที่ราคาใช้สิทธิ 20 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XW วันที่ 14 มิถุนายน 2564

อีกทั้งมีการพิจารณาอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทอีกจำนวน 447,170,000 บาท จากทุนจดทะเบียน 922,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 1,369,170,000 บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 447,170,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดย 1.จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนบริษัทไม่เกิน 92,200,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1 บาท เพื่อรองรับการจ่ายปันผล 2.จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนบริษัทไม่เกิน 101,420,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ SSP-W1 และ  3.จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนบริษัทไม่เกิน 253,550,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ SSP-W2

สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯเตรียมขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้า 2 โครงการ ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Leo 1 ในประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ (COD) ในไตรมาส 3 ปี 2564 และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ในประเทศเวียดนาม ซึ่งมีขนาดกำลังการผลิตอยู่ที่48 เมกะวัตต์ จะเริ่ม COD ในไตรมาส 4 ปี 2564 ผลักดันกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศเพิ่มเป็น 200 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันอยู่ที่ 143 เมกะวัตต์

ประกอบกับยังเดินหน้าขยายการลงทุน Solar Rooftop ในประเทศอินโดนีเซีย โดยคาดว่าภายในปี 2565 จะ COD ประมาณ 15 MW  ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Leo 2 ในประเทศญี่ปุ่น มีขนาดกำลังการผลิต 17 เมกะวัตต์ ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาโครงการ และคาดว่าจะ COD ได้ในปี 2566 โดยบริษัทฯวางเป้าภายใน 3-5 ปีข้างหน้า กำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็น 400 เมกะวัตต์ จากพลังงานลมเวียดนามเฟส2 และโรงไฟฟ้าอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างศึกษาและพิจารณา เพื่อเข้าลงทุน รองรับแผนการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต

Back to top button