GRAMMY คาดรายได้ปีนี้ลด 12% หลัง “โควิด” กระทบอีเว้นท์ เดินหน้าลดต้นทุน หวังเทิร์นอะราวด์

GRAMMY คาดรายได้ปีนี้ลด 12% หลัง "โควิด" กระทบอีเว้นท์ เดินหน้าลดต้นทุน หวังเทิร์นอะราวด์


นายธนากร มนูญผล รองกรรมการผู้อำนวยการ หน่วยงาน Group Investment บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY เปิดเผยว่า แนวโน้มรายได้ของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะลดลงราว 8-12% จากปีก่อน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 3 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจคอนเสิร์ตและโชว์บิซ ทำให้ในช่วงครึ่งปีแรกไม่สามารถจัดงานคอนเสิร์ตและอีเว้นท์ได้ ซึ่งเดิมบริษัทวางแผนจัดงานไว้ในปีนี้ 16 งาน ต้องปรับลดลงมา 12 งานหลังจากเกิดการแพร่ระบาดระลอก 2 แต่ปัจจุบันได้ปรับลดลงมาเหลือ 8 งานแล้ว

ทั้งนี้ รายได้จากการจัดงานอีเว้นท์ถือว่าลดลงไปค่อนข้างมากถึง 70% จากปีก่อน ซึ่งส่งผลให้รายได้ของบริษัทจากงานรับจ้างจัดอีเว้นท์หายไปราว 1.5 พันล้านบาท ประกอบกับรายได้จากธุรกิจบริหารจัดการศิลปินก็ลดลงตามไปด้วย เพราะศิลปินไม่ได้ไปออกงานอีเว้นท์ต่างๆ จึงมีผลต่อรายได้รวมของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้มีการปรับตัวในการหารายได้เข้ามาชดเชยจากช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะธุรกิจเพลงและธุรกิจภาพยนตร์ ด้วยการนำเพลงและภาพยนตร์เข้าไปอยู่ในสตรีมมิ่ง ซึ่งสามารถสร้างรายได้เข้ามาให้กับบริษัทได้ดี และเป็นช่องทางที่คนส่วนใหญ่นิยมรับชมกันมากในปัจจุบัน จึงช่วยชดเชยรายได้ที่หายไปได้บ้าง

ส่วนธุรกิจโฮมช้อปปิ้ง คือ O-Shopping บริษัทยังได้ร่วมกับพันธมิตรในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆออกมานำเสนอให้กับลูกค้า และมีการจัดโปรโมชั่นต่างๆเพื่อกระตุ้นยอดขาย โดยที่ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 45 รายการ ซึ่งจะทำให้ลูกค้ามีตัวเลือกสินค้ามากขึ้น และช่วยกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง อีกทั้งจะมีการร่วมมือกับพันธมิตรในการต่อยอดสินค้าที่จำหน่ายใน O-Shopping เพิ่มเติม คาดว่าจะเห็นความชัดเจนอีก 1-2 ดีลในช่วงไตรมาส 4/2564

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2564 คาดว่าจะดีกว่าปีก่อนค่อนข้างมากทั้งรายได้และกำไร หลังจากสามารถปรับโครงสร้างธุรกิจแล้วเสร็จ ทำให้ผลขาดทุนต่างๆ ลดลงไปจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอย่างมาก และธุรกิจในเครือได้มีการปรับตัวในการดำเนินธุรกิจได้ดีกว่าปีก่อนที่เพิ่งเริ่มมีสภานการณ์โควิด-19 ใหม่ ๆ ทำให้ผลกระทบต่อรายได้ไม่มากเท่ากับปีก่อน

อีกทั้งบริษัทยังคงเดินหน้าลดต้นทุนต่างๆในบริษัทต่อเนื่อง ซึ่งตั้งเป้าภายในช่วง 3 ปีนี้ (ปี 2564-2566) จะลดต้นทุนลงทั้งหมด 200 ล้านบาท เพื่อทำให้บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรมากขึ้น

“ปีนี้เราก็คาดว่าหากประคองผลงานให้ได้เช่นเดียวกับไตรมาส 1/2564 ที่สามารถมีกำไรได้ ผลงานทั้งปีก็มีโอกาสพลิกกลับมามีกำไรได้ ซึ่งตอนนี้หลังจากปรับโครงสร้างเสร็จแล้ว เราก็เดินหน้าลดต้นทุนต่างๆลงให้ได้ตามเป้า 3 ปีที่ 200 ล้านบาท พร้อมกับการต่อยอดธุรกิจต่างๆในเครือร่วมกับพันธมิตร อย่างธุรกิจโฮมช้อปปิ้งก็มีสินค้าที่ร่วมกับพันธมิตรออกมาต่อเนื่อง และธุรกิจเพลงเราก็ได้ร่วมกับ YG ที่จะพัฒนาศิลปินและผลงานออกมานำเสนอ เพื่อผลักดันให้วงการเพลงไทยไประดับโลกให้ได้”

สำหรับโอกาสในการต่อยอดธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความบันเทิง ศิลปิน ดารา และงานศิลปะต่างๆ ในเครือของ GRAMMY เข้ากับการลงทุนผ่านสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น บริษัทอยุ่ระหว่างการศึกษาการออกเหรียญดิจิทัลแบบ NFT เพื่อนำมาต่อยอดในการสร้างรายได้ที่เกี่ยวข้องกับงานด้านวงการบันเทิง วงการเพลง และศิลปะต่างๆที่บริษัทได้ผลิตขึ้นมา ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เข้ามาเสริมรายได้ให้กับบริษัทในอนาคต

Back to top button