EMC มั่นใจรายได้ปีนี้แตะ 1.9 พันลบ.จ่อเซ็นงานภาครัฐเพียบ!

EMC มั่นใจรายได้ปีนี้แตะ 1.9 พันลบ.ตามเป้า- จ่อเซ็นสัญญารับงานก่อสร้างงานวางระบบภายในสถานีรถไฟฟ้า มูลค่างานกว่า 2 พันลบ.คาดเซ็นสัญญาภายในปีนี้ อีกทั้งอยู่ระหว่างรอผลประมูลงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ มูลค่ากว่า 4 พันลบ.คาดว่าจะรู้ผลการประมูลในปลายปีนี้มั่นใจจะได้รับงาน 70%


นายชุมพล อิศรางกูร ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อีเอ็มซี จำกัด (มหาชน) หรือ EMC เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจปีนี้รายได้อยู่ที่ 1,900 ล้านบาท ตามเป้าหมาย เพิ่มขึ้นจาก 1.79 พันล้านบาทในปีที่แล้ว ในช่วงครึ่งแรกจะมีรายได้เพียง 390 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทจะมีการรับรู้รายได้เข้ามาเพิ่มเติมจากการรับงานโครงการก่อสร้าง โดยปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) จำนวน300 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้จนถึงกลางปี 59 

นอกจากนี้ ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญารับงานก่อสร้าง เพื่องานวางระบบภายในสถานีรถไฟฟ้า โดยมีมูลค่างานกว่า 2,000 ล้านบาท โดยคาดเซ็นสัญญาภายในปีนี้ รวมถึงบริษัทอยู่ระหว่างรอผลประมูลงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะรู้ผลการประมูลในปลายปีนี้  ซึ่งบริษัทค่อนข้างมีความมั่นใจว่าจะได้รับงาน 70%

ส่วนงานอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้  บริษัทเปิดไปแล้วจำนวน 2 โครงการ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,600 ล้านบาท โดยปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 60%  คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 60 และโครงการที่ 2 คือ โครงการ ปาล์มมิโอ อมตะนคร มูลค่าโครงการ 261 ล้านบาท  ปัจจุบันมียอดขาย 10% คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 59

สำหรับแผนในปีหน้า บริษัทจะเน้นรุกเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก โดยปีหน้าบริษัทมีแผนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม Low Rise ไม่ต่ำกว่า 2 โครงการ มูลค่า 2,000 ล้านบาท โดยมองการเปิดโครงการติดทำเลแนวรถไฟฟ้า โดยตั้งงบซื้อที่ดินไว้ 300-400 ล้านบาท จะเน้นโซนสุขุมวิท ทำให้คาดว่าในปีหน้าสัดส่วนรายได้จะมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 60% และธุรกิจก่อสร้าง 40% จากปัจจุบันที่มีรายได้จากธุรกิจก่อสร้าง 100%     

อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหุ้นได้ลงมติอนุมัติเพิ่มทุนในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2558 ที่ผ่านมา  โดยผู้ถือหุ้นได้อนุมัติให้บริษัทเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 6,822 ล้านหุ้น โดยคาดว่าจะสามารถระดมทุนได้ราว 1,580 ล้านบาท โดยการเพิ่มทุนในครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ และขีดความสามารถในการรับงานระบบก่อสร้าง

รวมถึงการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ให้เพิ่มสูงขึ้น โดยบริษัทยืนยันว่าจะดำเนินแผนธุรกิจหลังจากการเพิ่มทุนให้ได้มีประสิทธิภาพ และผลตอบแทนสูงสุดตามแผนที่ได้วางไว้ โดยจากการเพิ่มทุนครั้งนี้ จะแบ่งใช้สำหรับการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 60-65% ธุรกิจก่อสร้าง 35-40%

 

 

Back to top button