เหตุวินาศกรรมเบลเยียมฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 41 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิดที่สนามบินและสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 30 คน โดยข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มขนส่งร่วงลงอย่างหนัก


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด (22 มี.ค.) ที่ 17,582.57 จุด ลดลง 41.30 จุด หรือ -0.23%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,821.66 จุด เพิ่มขึ้น 12.79 จุด หรือ +0.27% และดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,049.80 จุด ลดลง 1.80 จุด หรือ 0.09%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุวินาศกรรมในกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม โดยเมื่อช่วงเย็นวานนี้ตามเวลาไทย ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่สนามบินซาเวนเทมและสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในกรุงบรัสเซลส์ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 30 คนและบาดเจ็บอีกจำนวนมาก

รายงานระบุว่า กลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์โจมตีในครั้งนี้ โดยระบุว่านักรบของ IS ได้เปิดฉากกราดยิงที่สนามบิน พร้อมระเบิดตัวเองด้วยการจุดชนวนระเบิดบนเข็มขัดพลีชีพ นอกจากนี้ สมาชิกของ IS อีกรายหนึ่งยังได้ทำการระเบิดพลีชีพในสถานีรถไฟใต้ดินเช่นกัน

เหตุวินาศกรรมในเบลเยียมส่งผลให้นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มขนส่ง โดยหุ้นเดลต้า แอร์ไลนส์ และหุ้นอเมริกัน แอร์ไลนส์ ร่วงลงกว่า 1.4% หุ้นเรลโร้ด ยูเนียน แปซิฟิก ดิ่งลง 2.3% ขณะที่หุ้นกลุ่มสันทนาการร่วงลงเนื่องจากเหตุการณ์โจมตีในเบลเยียมเช่นกัน โดยหุ้นแมริออท อินเตอร์เนชันแนล ดิ่งลง 1.2% หุ้นวินด์แฮม เวิล์ดไวด์ ดิ่งลง 1.1% หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครู๊ซ ปรับตัวลง 2.1% หุ้นคานิวัล คอร์ป ดิ่งลง 2.15% และหุ้นไพรซ์ไลน์ กรุ๊ป ร่วงลง 2.3%

อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน จากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (FED) สาขาริชมอนด์ เปิดเผยเมื่อวานนี้ ภาคการผลิตในภูมิภาคแอตแลนติคตอนล่างมีการขยายตัวอย่างมากในเดือนมี.ค. โดยแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 6 ปี ทั้งนี้ เฟดสาขาริชมอนด์ระบุว่า ดัชนีภาวะธุรกิจของภาคการผลิตดีดตัวสู่ระดับ +22 ในเดือนมี.ค. หลังจากอยู่ที่ระดับ -4 ในเดือนก.พ.

ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้ สหรัฐจะเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ. และ สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ส่วนวันพฤหัสบดี จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ยอดส่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเดือนก.พ. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนมี.ค.โดยมาร์กิต สำหรับวันศุกร์จะมีการเปิดเผยการประมาณการครั้งสุดท้ายของตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/2558 และการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ไตรมาส 4/2558

Back to top button