“ปตท.” เร่งช่วยเหลือเหตุเพลิงไหม้ พื้นที่บางพลี ระดมทีมผู้เชี่ยวชาญสารเคมีระงับเพลิง

"ปตท." เร่งช่วยเหลือเหตุเพลิงไหม้ พื้นที่บางพลี ระดมทีมผู้เชี่ยวชาญสารเคมีระงับเพลิง


เหตุการณ์ระเบิดภายในบริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตโฟมและเม็ดพลาสติก ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 5 ก.ค. 2564 ที่ผ่านมา จนส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ และแรงระเบิดส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนในชุมชนใกล้เคียง 1-2 กิโลเมตร ได้รับความเสียหายประมาณร้อยหลังคาเรือน

ขณะเดียวกันยังเกิดกลุ่มควันที่อาจมีการปนเปื้อนของสารเคมีสไตรีนโมโนเมอร์ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งและเป็นอันตรายต่อร่างกายลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ และกระจายวงกว้างออกไปโดยรอบในระยะทางหลายกิโลเมตร ดังนั้น เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ของวันที่ 5 ก.ค. 2564 จึงมีการประกาศให้ประชาชนที่อยู่ใกล้พื้นที่ดังกล่าวในรัศมี 5 กิโลเมตร อพยพออกนอกพื้นที่อย่างเร่งด่วน

นับเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว และส่งผลกระทบให้กับประชาชนเป็นวงกว้าง หลายๆ หน่วยงานได้มีการเร่งเข้าช่วยเหลือ ด้านบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. ได้จัดหาผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการสารเคมีเข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. เปิดเผยว่า “ความช่วยเหลือที่กลุ่ม ปตท. เร่งดำเนินการเบื้องต้น ปตท. โดยสายงานระบบท่อส่งก๊าซฯ สนับสนุนโฟมดับเพลิงในเบื้องต้น 250 ลิตร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) สนับสนุนโฟมดับเพลิง 6,800 ลิตร รวมถึงรถดับเพลิงพร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมปฏิบัติการ บริษัท เอ็นพีซี เซฟตี้ แอนด์ เอ็นไวรอนเมนทอลเซอร์วิส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการดับเพลิง กู้ภัย และระงับเหตุฉุกเฉิน ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญพร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมปฏิบัติการ เพื่อให้คำปรึกษาและช่วยเหลือการดับเพลิง

พร้อมอุปกรณ์หัวฉีดน้ำดับเพลิงแบบ Fix Monitor หุ่นยนต์ดับเพลิงและโฟมดับเพลิง 3,000 ลิตร สำหรับใช้ในการระงับเหตุ อีกทั้ง โรงแยกก๊าซธรรมชาติ ปตท. พร้อมกลุ่มความร่วมมือช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน (EMAG: Emergency Mutual Aid Group) ซึ่งเป็นการรวมตัวของทีมตอบโต้เหตุฉุกเฉินในกลุ่มโรงงานนิคมอุตสาหกรรมพื้นที่มาบตาพุดและใกล้เคียง จ.ระยอง เตรียมพร้อมให้การสนับสนุนโฟมที่ใช้ในการดับเพลิงดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง”

ขณะที่นักวิชาการหลากหลายท่านได้ออกมาประเมินผลกระทบทั้งทางด้านสุขภาพ และสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมแนะนำวิธีการรับมือในเบื้องต้น นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้มีไอระเหยของสารสไตรีน และก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ กระจายออกไปโดยรอบในรัศมีประมาณ 5 กิโลเมตร โดยเฉพาะด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของโรงงาน ซึ่งเป็นด้านท้ายลมในช่วงเช้า บริเวณแถบถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก แขวงดอกไม้ เขตประเวศ ทิศทางลมมีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลา ขณะเดียวกัน ผลการตรวจของกรมควบคุมมลพิษพบว่า เหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นได้ก่อให้เกิดมลพิษไกลถึง 9 กิโลเมตร

ทั้งนี้ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่โดยรอบในระยะ 500 เมตร ถึง 9 กิโลเมตร โดยตรวจวัดระดับขีดจำกัดการติดไฟ ปริมาณสารอินทรีย์ระเหย ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ พบว่าอยู่ในเกณฑ์ค่าขีดจำกัดการรับสัมผัสสารเคมีทางการหายใจแบบเฉียบพลัน

ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง​ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้โพสต์ข้อความเตือนภัยว่า เนื่องจากเหตุไฟไหม้ที่เกิดขึ้นในโรงงานสารเคมี ควันไฟที่ลอยขึ้นสู่อากาศ จึงอาจมีการปนเปื้อนของสารเคมีสไตรีนโมโนเมอร์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย ขอให้พี่น้องประชาชนที่อยู่ใกล้พื้นที่ดังกล่าวระมัดระวังตัว หลีกเลี่ยงการสูดดมกลิ่นควันไฟ หากมีอาการดังต่อไปนี้ ขอให้รีบพบแพทย์โดยด่วน

  1. สัมผัสทางหายใจ – การหายใจเข้าไปจะก่อให้เกิดการระคายเคืองระบบหายใจ อาจจะทำเกิดอาการโรคน้ำท่วมปอด ง่วงนอน ไอ ปวดศีรษะ วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน และเซื่องซึม
  2. สัมผัสทางผิวหนัง – การสัมผัสถูกผิวหนัง ทำให้เป็นแผลไหม้ ทำให้เกิดผื่นแดง
  3. กินหรือกลืนเข้าไป – การกลืนหรือกินเข้าไปจะก่อให้เกิดการระคายเคือง และเป็นแผลไหม้ที่ปากและกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดอาการเจ็บคอ ปวดท้อง ปวดศีรษะ วิงเวียน อาเจียน และเซื่องซึม
  4. การสัมผัสดวงตา – จะก่อให้เกิดการระคายเคืองตา และเกิดแผลไหม้ ตาแดง และเจ็บปวด หากมีอาการตามรายละเอียดที่แจ้งไปนี้ ขอให้เข้ารับการรักษาตัวโดยด่วน

สำหรับมาตรการแก้ไขปัญหา ขณะนี้ กรมควบคุมมลพิษ และสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 ได้ลงพื้นที่เพื่อสนับสนุนการทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เร่งช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่โดยรอบ พร้อมตรวจวัดคุณภาพอากาศและปริมาณสารเคมีที่ก่อให้เกิดอันตรายแล้ว ด้วยความห่วงใย และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต และพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ด้วย

Back to top button