สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 26 ก.ค. 2564

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 26 ก.ค. 2564


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่มีกำหนดเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธที่ 28 ก.ค.นี้ตามเวลาสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,144.31 จุด เพิ่มขึ้น 82.76 จุด หรือ + 0.24% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,422.30 จุด เพิ่มขึ้น 10.51 จุด หรือ +0.24% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,840.71 จุด เพิ่มขึ้น 3.72 จุด หรือ +0.03%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) โดยลดลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนักลงทุนขายหุ้นเพื่อทำกำไรหลังตลาดปรับตัวขึ้น 4 วันติดต่อกัน โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลจีนทำการควบคุมด้านกฎระเบียบที่เข้มงวด

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 461.14 จุด ลดลง 0.37 จุด หรือ -0.08%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,618.98 จุด ลดลง 50.31 จุด หรือ -0.32% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,025.43 จุด ลดลง 2.15 จุด หรือ -0.03% ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,578.60 จุด เพิ่มขึ้น 9.78 จุด หรือ +0.15%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ และเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์กดดันให้กลุ่มส่งออก

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 7,025.43 จุด ลดลง 2.15 จุด หรือ -0.03%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าการแพร่ระบาดทั่วโลกของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาอาจส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 16 เซนต์ หรือ 0.20% ปิดที่ 71.91 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.50% ปิดที่ 74.50 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 1,800 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธที่ 28 ก.ค.ตามเวลาสหรัฐ

ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 2.60 ดอลลาร์ หรือ 0.10% ปิดที่ 1,799.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค.

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 8.50 เซนต์ หรือ 0.34% ปิดที่ 25.318 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 8.60 ดอลลาร์ หรือ 0.81% ปิดที่ 1,070 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 15.70 ดอลลาร์ หรือ 0.60% ปิดที่ 2,678.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สกุลเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) ขานรับรายงานที่ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคผลิตและภาคบริการขยายตัวรวดเร็วสุดในรอบกว่า 20 ปี ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงก่อนที่ตลาดจะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธที่ 28 ก.ค.นี้ตามเวลาสหรัฐ

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.28% แตะที่ 92.6487 เมื่อคืนนี้

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1800 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1770 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3813 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3752 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7378 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7364 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.37 เยน จากระดับ 110.55 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9160 ฟรังก์ จากระดับ 0.9202 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2548 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2575 ดอลลาร์แคนาดา

 

 

Back to top button