“ไทย – ญี่ปุ่น” ร่วมมือด้านคมนาคม กางแผนแม่บท “MR – Map” 4 เส้นทางเชื่อมภูมิภาค

“ไทย - ญี่ปุ่น” ร่วมมือด้านคมนาคม กางแผนแม่บท "MR - Map" 4 เส้นทางเชื่อมภูมิภาค โดยผลการศึกษาเบื้องต้นจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4/2564 ที่จะสอดรับกับนโยบาย Indo-Pacific เพื่อสร้างสรรค์โครงข่ายการพัฒนาเศรษฐกิจที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับภูมิภาคอาเซียน


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมระดับสูง ไทย – ญี่ปุ่น (High Level Joint Commission: HLJC) ครั้งที่ 5 ในวันที่ 11 สิงหาคม 2564 ร่วมกับนายวาตะนาเบะ ทาเคยูกิ รมช.กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยวญี่ปุ่น (MLIT) ว่าได้เน้นย้ำการให้ความสำคัญการดำเนินโครงการความร่วมมือด้านคมนาคมไทย – ญี่ปุ่นในปัจจุบัน ทั้งการจัดทำแผนแม่บทขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (พื้นที่ต่อเนื่อง) ระยะที่ 2 (M-MAP2) การพัฒนาพื้นที่บางซื่อสู่เมืองอัจฉริยะ การศึกษาโครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพมหานคร – เชียงใหม่ ความร่วมมือด้านความปลอดภัยทางถนน

อีกทั้งล่าสุดคือบันทึกความร่วมมือระหว่างกระทรวงคมนาคม และ MLIT ด้านแผนงานนโยบายและเทคโนโลยีการจราจร โดยเป็นการให้ความร่วมมือทางวิชาการให้ก่อเกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมในการแปรนโยบายไปสู่การปฏิบัติ

นอกจากนี้ รมว.คมนาคมยังได้นำเสนอแผนแม่บทโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองกับระบบราง (MR-Map) ที่มีความคิดริเริ่มในก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหรือมอเตอร์เวย์ ควบคู่ไปกับระบบราง เป็นเส้นทางเดียวกัน ซึ่งจะเริ่มใน 4 เส้นทางที่มีศักยภาพนำร่อง ได้แก่ ชุมพร – ระนอง เชื่อมโยงระหว่างทะเลอันดามัน – อ่าวไทย, เส้นทางหนองคาย – ท่าเรือแหลมฉบัง, เส้นทางกาญจนบุรี – อุบลราชธานี และเส้นทางวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร รอบที่ 3

โดยผลการศึกษาเบื้องต้นจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 ที่จะสอดรับกับนโยบาย Indo-Pacific เพื่อสร้างสรรค์โครงข่ายการพัฒนาเศรษฐกิจที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับภูมิภาคอาเซียน พร้อมกันนี้ได้ให้ความเชื่อมั่นสำหรับการเดินหน้าพัฒนาโครงข่ายโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของไทยเพื่อความเชื่อมโยงในทุกระดับ สร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจของไทยและภูมิภาค

ขณะเดียวกันในที่ประชุมฯ ยังได้มีการหารือกันในประเด็นการประสานความร่วมมือระหว่างโมเดลเศรษฐกิจ Bio Circular Green (BCG) Economy ของไทย กับ Green Growth Strategy ของญี่ปุ่น การยกระดับความร่วมมือในด้านค้า การลงทุน การพัฒนาอุตสาหกรรมและการเสริมสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจระหว่างกันรวมถึงประเด็นด้านสาธารณสุข เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างยั่งยืน

 

 

Back to top button