ครม.ร้องยี้..หุ้นร้องระงม

สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยต่อจากนี้ น่าจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการทำกำไรของบริษัทเป็นหลัก เพราะจะไปหวังพึ่ง “ครม.อิ๊ง 2” อาจเหมือนเป็นการรอวันตาย


สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยต่อจากนี้ น่าจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการทำกำไรของบริษัทเป็นหลัก เพราะจะไปหวังพึ่ง “ครม.อิ๊ง 2” อาจเหมือนเป็นการรอวันตาย เพราะโฉมหน้ารัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยกระทรวงต่าง ๆ ที่ประกาศออกมาให้เห็นวานนี้..มันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเลย จนผู้คนทั่วไปเกิดอาการร้องยี้กับการเข้ามานั่งเป็นเจ้ากระทรวงคนใหม่กันเป็นแถวไงล่ะคะ

โดยเฉพาะตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ ซึ่งเป็นแกนหลักในการแก้ปัญหา “สินค้า” และ “ราคา” ที่อยู่ในสภาพตกต่ำ แต่กลับได้คนที่เติบโตมาจากทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ผู้คนเลยอยากรู้ว่า แก้ปัญหาได้เหรอ? โดยตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือราคามันสำปะหลังที่ตกต่ำเป็นเวลานานนั้น..สุดท้ายก็มาตึ่งโป๊ะว่า มีการแอบนำเข้ามาจากเขมรซะงั้น!  ส่งผลให้คนทั่วไปอยากเห็นฝีมือ “จตุพร” ในการสะสางปัญหาอื่น ๆ ที่เรื้อรังมานานเสียทีเจ้าค่ะ

ส่วนเจ้ากระทรวงอื่นที่ไม่ได้เอ่ยถึง ก็มีลักษณะเหมือนที่เกริ่นให้ฟังในตอนต้น และเมื่อมองการเมืองแบบผ่าน ๆ จะเห็นว่า ไม่ได้ทำเพื่อประชาชนเหมือนที่พรรคเพื่อไทยพร่ำบอก แถมเจอ “อุ๊งอิ๊ง” มานั่งกำกับกระทรวงวัฒนธรรมเข้าแบบนี้ “โมนิก้า” ถึงกับเกิดอาการลมจับในทันที เพราะของมันเคยเห็นฝีไม้ลายมือกันมาแล้วว่า ไม่เอาอ่าว! อีฉันเลยไม่สามารถแบกคุณเธอได้เหมือนพวกนางแบกนายแบกพะยะค่ะ

เหมือนกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไทยที่หลายคนเชื่อว่า DELTA ได้กลายเป็นหุ้นที่ไม่มีอิทธิพลกับตลาดหุ้นไทยอีกต่อไป แต่ภาพที่เห็นคาตากลับฟ้องว่า หุ้นตัวนี้ยังมีอิทธิพลกับตลาดหุ้นไทยเหมือนเดิม เพราะเกณฑ์ Capped Weight เป็นแค่การจำกัดการถือหุ้นของกองทุนไม่ให้เกิน 10% ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการขึ้นลงของดัชนีแต่อย่างใด..วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นมาปิดที่ 104 บาท บวกไป 8 บาท หรือขึ้นไป 8.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.07 พันล้านบาท..โอละพ่อของแท้เจ้าค่ะ!

ส่วนข่าวเม้าท์เรื่องเงินวัดหายพันล้านบาทในสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังคงเป็นประเด็นที่ถูกวิจารณ์ไม่เลิก และโฟกัสดังกล่าวก็พุ่งเป้าไปที่ KTB เสียด้วย เพราะจนป่านนี้ยังไม่มีคำชี้แจงอะไรออกมาเลย จึงทำให้ข่าวเม้าท์มโนเพิ่มไปในทำนองต้องมีอะไรซุกซ่อนไว้แน่ ๆ “โมนิก้า” เลยไม่แน่ใจว่า อาการตื้อ ๆ ตัน ๆ ของหุ้นในช่วงหนึ่งสัปดาห์ เกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่าวมากน้อยขนาดไหน?

สำหรับรายที่ติดบ่วงขาลงเป็นเวลนาน เพราะบรรทัดสุดท้ายติดตัวแดงบ่อยเหลือเกิน “โมนิก้า” คงมองไปที่เจ้าพ่อถ่านหินอย่าง BANPU เพื่อสะท้อนภาพของราคาหุ้นที่ดำดิ่งต่อเนื่อง จนวานนี้มาเห็นราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 4.12 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 2.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 150 ล้านบาท ก็เข้าใจได้ทันทีว่า นี่เป็นทางสองแพร่งที่หุ้นกำลังเลือกระหว่าง “เด้งขึ้น” เพราะลงมาที่บริเวณจุดกลับตัวครั้งก่อน กับอีกทางคือ “ลงต่อ” เพราะมูฟเมนต์ทางธุรกิจยังไม่ฟื้นนะจ๊ะ

อีกรายที่ทำท่าเหมือนจะฟื้นตัว แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ฟื้น “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น COM7 เพื่อชี้ให้เห็นแรงบีบคั้นทางเศรษฐกิจมีผลต่อกำไรของบริษัทอย่างแน่นอน อีฉันถึงมองว่า หากราคาหุ้นถีบตัวสวนกระแสได้ น่าจะเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์มาก ๆ จึงสงสัยว่า การประคองตัวจนปิดเสมอตัวที่ระดับ 18.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 210 ล้านบาท อาจเป็นการย้ำหัวหมุดว่า ภาวะต้องเป็นใจ ถึงจะมีแรงซื้อกลับเข้ามานะจะบอกให้

ปิดท้ายกันที่เรื่อง ศาล รธน.รับคำร้องปมคลิปหลุด พร้อมกับลงมติ 7 ต่อ 2 สั่งให้ “อุ๊งอิ๊ง” หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ทันที โดยตลาดหุ้นไทยพุ่งขึ้นมาปิดที่ 1,110.01 จุด บวกไป 20.45 จุด ด้วยมูลค่า 4.17 หมื่นล้านบาทแบบนี้..มันเหมือนเอาไม้หน้าสามฟาดหน้าเพื่อไทยอย่างแรง พร้อมกับประกาศให้โลกรู้ว่า นางไปถือเป็นเรื่องดี! เลยทำให้กองทุนมีความหวังกับสิ่งใหม่ ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะการถูลู่ถูกังไปเรื่อย ๆ มันมีแต่เรือหายมากขึ้นไงล่ะจ๊ะ

โมนิก้าและทีมงาน

Back to top button