PTT ร่วมทุน Foxconn ลุยธุรกิจ “ยานยนต์ไฟฟ้า” คาดชัดเจนครึ่งหลังปี 65

PTT ลงนามสัญญาร่วมทุน Foxconn ลุยธุรกิจผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศ คาดเห็นความชัดเจนช่วงครึ่งหลังของปี 2565


บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการ บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (Arun Plus) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ PTT ถือหุ้น 100% มีมติอนุมัติให้ Arun Plus ลงนามสัญญาร่วมทุน และจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับบริษัท ลี่ยี่อินเตอร์เนชั่นแนล อินเวสเมนท์ จำกัด (Lin Yin) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัท หงไห่ พริซิชั่น อินดัสทรี จำกัด (Foxconn) ถือหุ้นทั้งหมด ด้วยทุนจดทะเบียนไม่เกิน 3,220 ล้านบาท โดย Arun Plus และ Lin Yin ถือหุ้น ในสัดส่วน 60% และ 40% ตามลำดับ เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย

โดย Arun Plus ได้ลงนามในสัญญาร่วมทุนดังกล่าวแล้วเสร็จในวันที่ 14 ก.ย.64 คาดว่าจะสามารถเข้าสู่กระบวนการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้ายได้ภายในช่วงครึ่งหลังของปี 65 ทั้งนี้การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทร่วมทุนคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/64

ทั้งนี้ Foxconn จะใช้ความเชี่ยวชาญทางด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีในการผลิตและพัฒนาแพลตฟอร์ม MIH (Mobility-In-Harmony) ผสานกับองคค์วามรู้การดำเนินธุรกิจในประเทศไทยของ กลุ่ม ปตท. ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าของภูมิภาคอาเซียน และทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ ส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโต เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในระดับสากล

ด้านนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTT เปิดเผยว่า แผนลงทุนในช่วง 5-6 ปีจะเริ่มจากการสร้างโรงงานใหม่ คาดว่าจะอยู่ในพื้นที่ EEC วางระบบการผลิต การบริหาร Supply chain พร้อมตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาทางวิศวกรรม ด้วยเงินลงทุน 1- 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งโรงงานดังกล่าวจะสามารถผลิต EV ทั้งคัน ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของ  Foxconn โดยเฉพาะแพลตฟอร์มที่มีทั้ง Hardware และ Software ที่จะช่วยลดระยะเวลาและต้นทุนในการพัฒนารถ EV ได้อย่างมีนัยสำคัญ เพิ่มความสามารถทางการแข่งขันในตลาด EV และพลิกโฉมภาคการพัฒนาและผลิตยานยนต์ไฟฟ้าโดยรวมได้ เบื้องต้นจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 ปี ในการเตรียมพร้อมและเริ่มผลิตออกสู่ตลาด โดยมีเป้าหมายการผลิตในระยะแรก 50,000 คัน/ปี และขยายเป็น 150,000 คัน/ปี ในอนาคต

“การร่วมทุนในครั้งนี้ จะกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในประเทศ เสริมสร้างทักษะและอาชีพให้กับประชาชน โดยหากประสบผลสำเร็จในระยะแรกจะขยายการลงทุนเพิ่มเติมในระยะต่อไป ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจสู่เวทีโลกในอนาคตแล้ว ยังเป็นการตอบสนองนโยบายและทิศทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐ ที่มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมาย พร้อมขับเคลื่อนประเทศให้บรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกอีกด้วย” นายอรรถพล กล่าว

นาย ยัง ลวือ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  Foxconn กล่าวว่า การรังสรรค์นวัตกรรมเป็นค่านิยมหลักที่  Foxconn ยึดถือเสมอมา เช่นเดียวกันกับ ปตท.ที่ขับเคลื่อนและให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม สะท้อนถึงการมีกลยุทธ์และวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจในทิศทางเดียวกัน ซึ่งช่วยให้ ปตท. เป็นอีกหนึ่งพันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญของ  Foxconn ประกอบกับตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในอาเซียนที่เริ่มมีการปรับตัวและเติบโตแบบก้าวกระโดด

สำหรับการผนึกความร่วมมือกับ ปตท. ทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถนำเอาประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญและองค์ความรู้ของทั้งสององค์กร มาช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจเพื่อให้ประเทศไทยมุ่งสู่อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ได้อย่างแท้จริง และการร่วมทุนในครั้งนี้ยังเป็นอีกชิ้นส่วนสำคัญ ที่จะช่วยเติมเต็มระบบนิเวศของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคตให้สมบูรณ์และแข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมนำพาประเทศไทยมุ่งสู่การเป็น ไทยแลนด์ 4.0 ได้ต่อไป

Back to top button