10 หุ้นอสังหาฯ! รับอานิสงส์ปลดล็อก LTV ชู SPALI-AP-ORI เด่นสุด Backlog สูง-พร้อมโอนเพียบ!

10 หุ้นอสังหาฯ! รับอานิสงส์ปลดล็อก LTV ชู SPALI-AP-ORI เด่นสุด Backlog สูง-พร้อมโอนเพียบ!


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้(21ต.ค.64) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศผ่อนคลายมาตรการ LTV (loan to value) สำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัยมาเป็น 100% ถึง สิ้นปี 2565 จากปัจจุบันที่เพดาน LTV สำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัยอยู่ที่ระดับ 70-90% ซึ่งการผ่อนคลายมาตรการดังกล่าวสำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่ (รวมถึงการ Refinance และสินเชื่อ Top-Up) และถือเป็นปัจจัยกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์อีกครั้ง

ดังนั้นทีมข่าว “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงทำการรวบรวมหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์มานำเสนอ โดยอ้างอิงจากบทวิเคราะห์บล.โนมูระ พัฒนสิน โดยมีมุมมอง positive ต่อประเด็นผ่อนคลาย LTV เพื่อกระตุ้นภาคอสังหาฯและน่าจะมีผลต่อการฟื้นตัวของตลาดอสังหาฯอย่างมีนัยสำคัญ”หลังจากชะลอตัวมาตั้งแต่ปี 2563 จากนโยบาย LTV และผลกระทบ COVID-19

โดยมาตรการ LTV เป็นปัจจัยกดดันตลาดอสังหาฯในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนจาก rejection rate cancellation rate ที่สูงขึ้นมาก และเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบคาดหวังให้ผ่อนคลายมากสุด

โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทที่มี backlog รอโอนมากในช่วง 5 ไตรมาสข้างหน้าจะได้ประโยชน์ทันที จากนโยบาย LTV ใหม่ เพราะลูกค้ามีโอกาสกู้ผ่านง่ายขึ้นทันที ซึ่งได้แก่ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI (Backlog 3.6 หมื่นล้านบาท), บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI (backlog 3.45 หมื่นล้านบาท) และ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP (backlog 3.9 หมื่นล้านบาท) ตามลำดับ

ด้านตลาด “low-rise น่าจะได้ประโยชน์จาก demand ส่วนเพิ่ม โดยเฉพาะกลุ่มบ้านแฝด บ้านเดี่ยว ราคา 5-10 ล้านบาท เพราะเป็นกลุ่มบ้านหลังที่สองในสัดส่วนที่มากรวมถึงมีการใช้สินเชื่อมากในขณะที่ trend 2-3 ปีที่ผ่านมา โตดีมากแทนที่ตลาด condo ให้น้ำหนัก AP ได้ประโยชน์มากสุด เพราะมี market share ในกลุ่มนี้มาก และแย่ง market share ที่ผ่านมาได้เด่นสุด

ส่วนตลาด condo อาจเห็น demand ส่วนเพิ่มบ้าง แต่อาจไม่มากเท่า low-rise ในช่วงสั้น เพราะ ลูกค้าเปลี่ยนพฤติกรรมไปซื้อ low-rise จาก WFH “อย่างไรก็ตาม condo จะได้ประโยชน์ในกลุ่มที่มีสินค้าพร้อมโอน และมี backlog ที่กำลังรอโอนใน 5 ไตรมาสข้างหน้าที่สูง ซึ่งอาจผ่านง่ายขึ้นทันทีภายใต้ LVT ใหม่ โดย SPALI, ORI มี condo ใหม่ทยอยโอนช่วงนี้มากสุด

นอกจากนี้มาตรการ LTV ใหม่น่าจะช่วยจำกัด downside ประมาณการกำไรสุทธิกลุ่มปี 2564 ที่โต 10% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ให้มีโอกาส downside ที่ลดลง ในขณะที่คาดกำไรสุทธิกลุ่มปี 2565 ที่ โต 10% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีโอกาส upside จาก demand ส่วนเพิ่ม และนโยบายเปิดประเทศในช่วงสิ้นปีนี้

ทั้งนี้คาด SPALI,AP และ ORI ได้ประโยชน์ช่วงสั้น-กลาง จากมาตรการผ่อนคลาย LTV มากสุด ในขณะที่ sector rating ให้น้ำหนัก Bullish หรือ “ซื้อ” เพราะ fundamental เปลี่ยนในทางดีขึ้นคงแนะนำซื้อทั้ง SPALL (ราคาเป้าหมาย 26 บาท), AP (ราคาเป้าหมาย 10.50 บาท) และ ORI (ราคาเป้าหมาย 13.70 บาท)

ด้านผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นกลุ่มอสังหาฯปิดวานนี้(21 ต.ค.2564) ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นแรงตอบรับปัจจัยบวก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศผ่อนคลายมาตรการ LTV (loan to value) สำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัยมาเป็น 100% ถึงสิ้นปี 2565 อาทิ SAMCO,PRECHA,BROCK,MJD,ORI,AP,SPALI,NUSA,NOBLE, SENA, LPN, SA, SIRI,RML,UV,EVER,QH,ANAN,U,S ดังตารางประกอบ

Back to top button