BBL โชว์กำไรไตรมาส 3 พุ่งกว่า 70% เฉียด 7 พันลบ. รับรายได้ค่าธรรมเนียมโต

BBL รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/64 โต 72% มาที่ 6.99 พันลบ. รับรายได้มิใช่ดอกเบี้ยโต ส่วนงวด 9 เดือนกำไรโต 37% แตะ 2 หมื่นลบ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL รายงานผลการดำเนินงานงาดไตรมาส 3/64 และงวด 9 เดือนแรกปี 64 มีกำไรสุทธิ ดังนี้

โดยธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคารในไตรมาส 3/2564 จำนวน 6,909 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 552 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 จากการขยายตัวของปริมาณเงินให้สินเชื่อและเงินลงทุน

ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลงเล็กน้อย ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาล สำหรับผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอยู่ในระดับเดียวกับไตรมาสก่อน

โดยธนาคารยึดหลักความระมัดระวังและรอบคอบภายใต้การพิจารณาปัจจัยผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงมีความไม่แน่นอน

ทั้งนี้หากเทียบกับไตรมาส 3/2563 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคารเพิ่มขึ้น 2,892 ล้านบาท หรือร้อยละ 72.0 โดยมีรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจากการบริหารต้นทุนเงินรับฝาก และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เป็นผลของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิจากธุรกิจหลักทรัพย์และการอำนวยสินเชื่อ รวมถึงกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน (FVTPL) เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นไปตามสภาวะตลาด

สำหรับค่าใชจ่ายในการดำเนินงานลดลงเนื่องจากปีก่อนมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการควบรวมสาขาในประเทศอินโดนีเซีย ทั้งนี้ผลขาดทุนด้าน เครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้นเพื่อเสริมสร้างระดับสำรองของธนาคารให้แข็งแรงเพื่อรองรับผลกระทบสำหรับสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

สำหรับงวด 9 เดือนปี 2564 กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคารมีจำนวน 20,189 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,406 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 ส่วนใหญ่จากผลของการรวมธนาคารเพอร์มาตาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 ประกอบกับค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลงจากการบริหารต้นทุนเงินรับฝากและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิจากค่าธรรมเนียมธุรกิจหลักทรัพย์และการอำนวยสินเชื่อ ประกอบกับการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดด้วยมูลค่ายุติธธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน (FVTPL) ซึ่งเป็นไปตามสภาวะตลาด

ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากการรวมค่าใช้จ่ายของธนาคารเพอร์มาตาตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2/2563 ธนาคารยังคงยึดหลักความระมัดระวังในการตั้งสำรอง โดยพิจารณาปัจจัยผลกระทบของสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อรองรับความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้า ส่งผลให้ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้น

Back to top button