
4 หมื่นล้านสะดุด! “ประเสริฐ” สั่งระงับโครงการ Cloud ศธ.-อว. สกัดล็อกสเปก
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สั่งชะลอประมูลโครงการไอทีเพื่อการศึกษากว่า 4 หมื่นล้าน หลังพบข้อสงสัยล็อกสเปก-เอื้อเอกชน ขัดนโยบาย Cloud First เตรียมสอบเชิงลึก
ผู้สื่อข่าวรายงานอ้างอิงแหล่งข่าวในรัฐบาลวันนี้ (30 มิ.ย.68) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบาย Cloud First Policy มีคำสั่งระงับขั้นตอนการประมูล 2 โครงการใหญ่มูลค่า 40,000 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวอยู่ภายใต้ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ทั้งนี้ การสั่งระงับมีขึ้นภายหลังจากเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. มูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ยื่นหนังสือร้องเรียนถึง นายประเสริฐ ให้ตรวจสอบความชอบธรรมของโครงการใน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้แก่
1.) โครงการเช่าระบบคลาวด์ (6,834 VM) มูลค่า 2,800 ล้านบาท
2.) โครงการจัดซื้อซอฟต์แวร์ + Learning Platform ระยะที่ 2 มูลค่า 1,330 ล้านบาท
ในคำร้อง ระบุอย่างชัดเจนว่า การกำหนดสเปกที่มีลักษณะเฉพาะเจาะจงและตายตัว อาจเป็นอุปสรรคต่อการแข่งขันอย่างเสรี และอาจเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ให้บริการเพียงรายเดียว ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการ “ล็อกสเปก” และการเรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวจาก คณะกรรมการนโยบาย Cloud First เปิดเผยว่าการจัดซื้อจัดจ้างบริการคลาวด์ ของหน่วยงานภาครัฐทั้งหมดจะต้องดำเนินการผ่านระบบกลางตามมติของคณะกรรมการฯ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อหลีกเลี่ยงการจัดซื้อซ้ำซ้อน ลดค่าใช้จ่าย และยกระดับความปลอดภัยของข้อมูลภาครัฐ
ปัจจุบัน คณะกรรมการได้ตั้งอนุกรรมการด้านจัดซื้อจัดจ้างด้านไอทีมาควบคุมกำกับโดยตรง ซึ่งห้ามทุกหน่วยงานแยกจัดซื้อหรือประมูลเอง หากไม่ได้รับอนุมัติจากกลไกกลาง
จากการรวบรวมข้อมูลจากเอกสารงบประมาณ พบว่า มีแผนการใช้จ่ายในโครงการด้านเทคโนโลยีการศึกษาจาก 2 กระทรวงหลัก ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) รวมกันเกินกว่า 40,000 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดเบื้องต้น ดังนี้
ศธ. ได้แก่ ค่าเช่าแท็บเล็ตพร้อมซิมการ์ด: 14,655 ล้านบาท, ค่าเช่าคลาวด์ (Virtual Machine): 2,800 ล้านบาท, โครงการ Learning Platform เฟส 2: 1,330 ล้านบาท, โครงการ VR–AR และ Smart Lab: 432 ล้านบาท
อว. ได้แก่ ค่าเช่าคลาวด์สำหรับสถาบันอุดมศึกษา: 5,413 ล้านบาท
ศธ. และ อว. ได้แก่ โครงการอื่นๆ เช่น NEdNet และ Synchrotron: รวมงบประมาณ หลายพันล้านบาท
ทั้งนี้ หลายโครงการอยู่ในระหว่างรอเปิด TOR และมีลักษณะกำหนดสเปกเทคโนโลยีตายตัว ทำให้ภาคประชาชนตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นการกำหนดผู้ให้บริการทางเทคนิคไว้ล่วงหน้า เพื่อจำกัดการแข่งขัน
แหล่งข่าวระดับสูงจาก กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการนำระบบ IT Marketplace มาใช้กับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของภาครัฐทั้งระบบ โดยจะเปิดให้ผู้ประกอบการเข้าร่วมเสนอราคาและบริการผ่านแพลตฟอร์มกลาง ภายใต้เงื่อนไขและมาตรฐานเดียวกัน เพื่อยกระดับความโปร่งใสและลดความเสี่ยงต่อการเอื้อประโยชน์เฉพาะราย
หากคณะอนุกรรมการตรวจสอบพบว่า โครงการของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) หรือกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มีลักษณะขัดต่อมติคณะกรรมการ หรือมีข้อพิรุธ รัฐบาลอาจพิจารณาสั่ง ยกเลิก TOR เดิมทั้งหมด และออกแนวปฏิบัติกลางใหม่ให้หน่วยงานราชการทุกแห่งยึดถือและดำเนินการอย่างเคร่งครัด