“ฟินันเซีย” แนะถือ DCC ลุ้น “รับปันผล” 0.041 บ./หุ้น คาดไตรมาส 4 ยอดขายฟื้นตัว   

“ฟินันเซีย” แนะถือ DCC ลุ้น “รับปันผล” 0.041 บ./หุ้น คาดไตรมาส 4 ยอดขายฟื้นตัว รับอานิสงส์ซ่อมแซมบ้านหลังน้ำลด ประเมินกำไรทั้งปีแตะ 1.65 พันลบ.


บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่าด้วยประเด็นของ บริษัท ไดนาสตี้เซรามิค จำกัด (มหาชน) หรือ DCC คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2564 อยู่ที่ 360 ล้านบาท ลดลง 21% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และลดลง 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน สาเหตุมาจากคาดยอดขายหดตัว 14% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและ 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนเป็น 1.87 พันล้านบาท

อย่างไรก็ตามจากความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด COVID-19 ที่รุนแรง รวมถึงปัจจัยฤดูกาลที่การเข้าสู่ฤดูฝนเต็มตัวและเผชิญภาวะอุทกภัยในเดือนก.ย.

ขณะที่อัตรากาไรขั้นต้นคาดปรับลดเล็กน้อยเป็น 42.7% เทียบกับ 43.6% ในไตรมาส 2 ปี2564 และ 43% ในไตรมาส 3 ปี2563 ถือว่ายังอยู่ในกรอบที่ประเมินไว้ แม้ถูกกดดันจากการต้นทุนการผลิตทั้งต้นทุนก๊าซเร่งขึ้นตามราคาน้ำมัน 36% ของต้นทุนรวม ซึ่ง เพิ่มขึ้น 18-19 บาท/MMBTU จาก 265.80 บาท/MMBTU ในไตรมาส 2 ปี 2564 รวมถึงราคาวัตถุดิบอย่างดินหินแร่ (20% ของต้นทุนรวม) ที่สูงขึ้น แต่บรรเทาด้วยการทยอยปรับขึ้นราคาขาย 3-5 แต่ละกลุ่มสินค้าในทุกๆเดือน ซึ่งปัจจุบันครอบคลุมแล้วราว 30% ของพอร์ต บวกกับเพิ่มสัดส่วนการขายกระเบื้องขนาดใหญ่ 60×120 และ 80×80 ซึ่งมีมาร์จิ้นสูง

นอกจากนี้นักวิเคราะห์ยังมองว่าไตรมาส 4 ปี 2564 มีประเด็นหนุนจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ดีขึ้นและคลายล็อกดาวน์ อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยเสี่ยงจากภาวะน้ำท่วมหลายพื้นที่ในต่างจังหวัด ซึ่งมีสัดส่วน 86% ของยอดขายรวม เบื้องต้นคาดกระทบยอดขายเดือนต.ค.ลดลง 15-20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนขณะที่ต้องติดตามปริมาณน้าฝนอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากสถานการณ์คลี่คลายในเดือนพ.ย.-ธ.ค. DCC จะได้รับประโยชน์จากการซ่อมแซมบ้านหลังน้ำลดหนุนยอดขายฟื้นตัวได้

สำหรับต้นทุนการผลิตทั้งราคาก๊าซมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมัน และต้นทุนวัตถุดิบทรงตัวสูง แต่คาดว่าการปรับราคาขายขึ้นและ Product Mix จะควบคุมผลกระทบต้นทุนให้อัตรากาไรขั้นต้นทำได้ระดับ 42.5-43.5% ทั้งนี้ คงประมาณการกำไรปี 2564 ที่ 1.65 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนและขยายตัวต่อ 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนเป็น 1.71 พันล้านบาทในปี 2565 จากความต้องการใช้กระเบื้องที่ฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ยังคงราคาเหมาะสมปี 2564 ที่ 3.30 บาท อิง PER 18 เท่า ระยะสั้นหุ้นอาจถูกกดดันจากแนวโน้มผลประกอบการ ไตรมาส3 ปี 2564 อ่อนแอบวกกับราคาหุ้นมี อัพไซด์ไม่มาก ท่ามกลางความกังวลน้ำท่วมยืดเยื้อ จึงคงคำแนะนำถือรับปันผล โดยคาด ไตรมมาส 3 ปี 2564  จ่ายปันผล 0.041 บาท/หุ้น Yield 1.4% สมมติฐาน Payout 100% และคาดผลตอบแทนปันผลทั้งปีสูง 6% โดย Key Catalyst คือภาวะน้ำท่วมคลี่คลายได้เร็ว ส่วน Key Risk คือน้ำท่วมยาวนานกว่าคาดและต้นทุนการผลิตสูงขึ้นรวมถึงการระบาด COVID รอบใหม่

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Back to top button