“หุ้นเอเชีย” ผันผวน! หลังพบผู้ติดเชื้อ “โอไมครอน” เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ

“หุ้นเอเชีย” ผันผวน! หลังพบผู้ติดเชื้อ “โอไมครอน” เพิ่มขึ้นในสหรัฐจำนวน 5 ราย, อินเดีย และสิงคโปร์


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวผันผวนในช่วงเปิดตลาดเช้าวันนี้ โดยยังคงถูกกดดันจากปัจจัยลบเนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในสหรัฐจำนวน 5 ราย, อินเดีย และสิงคโปร์

โดยดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,841.05 จุด เพิ่มขึ้น 87.68 จุด หรือ +0.32%, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,576.45 จุด เพิ่มขึ้น 2.61 จุด หรือ +0.07% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,675.26 จุด ลดลง 113.67 จุด หรือ -0.48%

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคยังคงถูกกดดันจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก โดยล่าสุด รัฐนิวยอร์กของสหรัฐแถลงยืนยันว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนจำนวน 5 รายในนครนิวยอร์กซิตี้

ทั้งนี้ผู้ติดเชื้อไวรัสโอไมครอนรายหนึ่งถูกพบในเขตซัฟโฟล์ค เคาตีในเมืองลองไอส์แลนด์ ส่วนอีก 4 รายนั้นพบที่ 3 เมืองของนิวยอร์กซิตี้ โดย 2 รายพบในเมืองควีนส์, 1 รายพบในเมืองบรูคลิน และอีก 1 รายพบในเมืองแมนฮัตตัน

อย่างไรก็ดีผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กยืนยันว่า การพบไวรัสโอไมครอนระบาดในครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า รัฐนิวยอร์กจะใช้มาตรการล็อกดาวน์เหมือนกับที่เคยประกาศใช้ในช่วงเริ่มต้นของการแพร่ระบาด ซึ่งมาตรการดังกล่าวได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาคธุรกิจ และทำให้ประชาชนในรัฐนิวยอร์กหลายล้านคนต้องตกงาน

ส่วนในภูมิภาคกระทรวงสาธารณสุขอินเดียระบุว่า พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนเป็นครั้งแรกในประเทศ จำนวน 2 ราย ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์แถลงว่า พบผู้ติดเชื้อโอไมครอนเป็นครั้งแรกในประเทศ จำนวน 2 รายเช่นกัน โดยทั้งคู่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากโยฮันเนสเบิร์กแอฟริกาใต้

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 28,000 ราย สู่ระดับ 222,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 240,000 ราย

ขณะเดียวกันนักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาควันนี้ ได้แก่ ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนพ.ย.ของเกาหลีใต้ และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนพ.ย.ของจีนจากไฉซิน รวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ย.ของสหรัฐ

Back to top button