RBF ส่งซิกผลงานปี 65 ฟื้นแกร่ง แผนขยายตลาด “อินเดีย” ดันผลงานโต

RBF มองแนวโน้มผลประกอบการปีนี้ฟื้นตัวดีจากปีก่อนหลัง "โควิด-19" เริ่มคลี่คลาย ส่วนแผนขยายตลาด "อินเดีย" คาดผลตอบรับดี มีแนวโน้มเติบโตช่วง 3-5 ปี


นายสุรนาถ กิตติรัตนเดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF เปิดเผยกับ ข่าวหุ้นธุรกิจ” ผ่านรายการ ข่าวหุ้น” ออกอากาศทางช่อง MCOT HD30 ในวันที่ 31 ม.ค. 2565 มีประเด็นสำคัญดังนี้

1.บริษัทมองเห็นโอกาสตลาดในอินเดียอย่างไร

บริษัทยังคงเดินหน้าขยายตลาดในต่างประเทศมาโดยตลอด ซึ่งตลาดอินเดียนี้ได้ศึกษามาสักระยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากประเทศอินเดียส่งออกกุ้งเป็นอันดับ 2 ของโลก อีกทั้งเป็นประเทศที่มีประชากรมาก และเริ่มที่จะหันไปบริโภคอาหารที่ปรุงสุกมากขึ้น ดังนั้นเลยมองว่าศักยภาพการเติบโตในอินเดียมีความชัดเจน จึงเป็นโอกาสดีที่บริษัทได้เข้าไปลงทุนในประเทศอินเดีย

2.ปัจจัยชี้วัดที่ทำให้ตั้งฐานผลิตในประเทศอินเดีย

ยังคงต้องดูในเรื่องของตลาด ซึ่งถ้ามีการเติบโตที่ชัดเจนและเป็นไปตามที่มีการคาดการณ์ไว้ รวมถึงการร่วมมือกันระหว่าง TU และพันธมิตรอินเดีย ที่หากมีการขยายตลาดได้ตามเป้าที่วางไว้ก็มีโอกาสที่จะตั้งฐานผลิตในประเทศอินเดีย โดย TU เองจะช่วยต่อยอดในการขยายธุรกิจ ขณะที่อะแวนติเองก็มีชื่อเสียงมากในประเทศอินเดีย ดังนั้นจึงมั่นใจว่า 2 พันธมิตรที่แข็งแกร่งนี้จะช่วยส่งเสริมการขยายตลาดของบริษัทได้มาก

3.บทบาทหน้าที่ของ TU ในการจับมือกันในครั้งนี้

ทาง TU เองมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจหลายประเทศ มองเห็นศักยภาพในแต่ละประเทศ รวมถึงการช่วยไกด์ไลน์ และหาพาร์ทเนอร์ ทำให้บริษัทสามาถเริ่มต้นการขยายธุรกิจได้เร็วขึ้น ซึ่งหาการร่วมมือครั้งนี้ประสบความสำเร็จอาจจะมีโอกาสได้เห็นความร่วมมือเพิ่มเติมกับ TU ในอนาคต

4.ปัจจุบันตลาดส่วนผสมอาหารในอินเดีย มีมูลค่ามากน้อยเพียงใด

มองว่าในช่วง 3-5 ปี ทางประเทศอินเดียจะเติบโตได้เร็ว มีโอกาสแซงทางประเทศอินโดนีเซีย และเวียดนามที่บริษัทได้เปิดฐานการผลิตไปแล้วก่อนหน้านี้ เนื่องจากจำนวนประชากรที่สูงกว่า อีกทั้งการประเมินมูลค่าตลาดแล้วมั่นใจว่าทางอินเดียมีขนาดใหญ่กว่าทางอินโดนีเซียแน่นอน และมั่นใจว่าจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทจนถึงจุดที่สามารถขยายธุรกิจต่อไปได้

5.ธุรกิจในเวียดนาม-อินโดนีเซีย สร้างผลตอบแทนได้มากน้อยเพียงใด

สำหรับธุรกิจในเวียดนามและอินโดนีเซียยังคงเติบโตตามแผน ซึ่งขณะบริษัทเตรียมขยายโรงงานเฟส 2 ที่ประเทศอินเดีย  ซึ่งจะใช้เงินระดมทุนไอพีโอเป็นเงินทุนในการสร้าง และคาดจะเริ่มผลิตได้ในปี 2566 นอกจากนี้ยังมีแผนขยายไลน์ผลิตสินค้าทั้งในประเทศอินโดนีเซีย และเวียดนาม ทำให้เชื่อว่าตลาดใน 2 ประเทศนี้จะเติบโตได้เร็วในอนาคต

6.แนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้

บริษัทประเมินว่าปี 2565 นี้ ธุรกิจจะเริ่มมีการฟื้นตัวและเติบโตได้ดีกว่าปี 2564 จากการคลี่คลายของสถานการณ์โควิด-19 โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทยังสามารถประครองธุรกิจให้มีกำไรได้ แม้จะเจอวิกฤตโควิดเข้ามากดดัน ซึ่งถือเป็นการดึงความเชื่อมั่นจากผู้หุ้นว่าบริษัทสามารถยืนหยัดอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ที่หนักหน่วงนี้

7.ธุรกิจกัญชงปีนี้จะเริ่มรับรู้รายได้อย่างไร

สำหรับธุรกิจกัญชง ปัจจุบันพื้นที่ที่บริษัทปลูกเองเข้าสู่ฤดูการเก็บเกี่ยว โดยบริษัทจะส่งมาให้โรงงานที่อยุธยาเป็นที่สกัด และในช่วงเดือนกุมภาพันธุ์นี้จะเริ่มจำหน่ายตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งซื้อ ซึ่งถ้าผลตอบรับดีเชื่อว่าธุรกิจนี้จะสามารถสร้างการเติบโตให้กับ RBF เพิ่มเติมได้อย่างต่อเนื่อง

Back to top button