KSL ส่งซิกผลงานปี 65 โตต่อเนื่อง รับปริมาณหีบอ้อยทะลุ 6.14 ล้านตัน-ราคาน้ำตาลโลกพุ่ง

KSL ส่งซิกผลงานปี 65 โตต่อเนื่อง รับปริมาณอ้อยเข้าหีบคาดทะลุ 6.14 ล้านตัน จากปีก่อน 4.77 ล้านตัน พร้อมรับอานิสงส์ราคาน้ำตาลโลกพุ่ง ด้านบ.ลูก “บีบีจีไอ” รายได้ทะลักต่อเนื่อง จ่อเข้า SET ปีนี้ ช่วยต่อยอดธุรกิจไบโอดันผลงานเข้าเป้า


นายชลัช ชินธรรมมิตร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หรือ KSL เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 11 ก.พ.65 ว่า ในปีที่ผ่าน KSL ปริมาณอ้อยเข้าหีบปี 2564 (ในประเทศ) อยู่ที่ 4.77 ล้านตันอ้อย และมีสัดส่วนมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 7.15% และเป็นอันดับ 3 ของปริมาณหีบอ้อยทั่วประเทศปริมาณการผลิตน้ำตาลประมาณ 534,850 ตัน

ด้านผลประกอบการปี 2564(1 พ.ย.2563-31 ต.ค.2564) บริษัทมีกำไรสุทธิ 615.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2563 ขาดทุนสุทธิ 82.74 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ และส่วนแบ่งธุรกิจร่วมทุนหนุน อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง ทำให้ EBITDA ในปี 2564 อยู่ที่ 2,223 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2563 อยู่ที่ 1,412 ล้านบาท แม้ว่าในปี 2563-2564 ธุรกิจจะเผชิญปัญหาภัยแล้งทำให้ปริมาณอ้อยลดลงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

ส่วนแนวโน้มปริมาณน้ำตาลสำหรับปี 2565 คาดว่าจะเกินดุลอยู่ที่ 1.14 ล้านตัน จากปีที่ผ่านมาขาดดุล โดยเกินดุลจากผู้ผลิตรายใหญ่อันดับ 1 บราซิลคาดผลผลผลิตจะดีขึ้นจากปริมาณน้ำฝนดีขึ้น โดยคาดการผลิตปริมาณน้ำตาลในปี 2565 อยู่ที่ 550 ล้านตันอ้อย จากปี 2564 อยู่ที่ 516 ล้านตันอ้อย

ด้านราคาน้ำตาลในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่เฉลี่ย 19-20 เซนต์/ปอนด์ สูงกว่าปีก่อนที่อยู่ในระดับ 17.28 เซนต์/ปอนด์ แม้ว่าผู้ผลิตหลักอย่างประเทศบราซิลจะมีผลผลิตออกมามากขึ้นหลังจากสภาพอากาศดีขึ้น แต่ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาเอทานอลสูงขึ้นตาม ส่งผลให้ผู้ประกอบการหันมาผลิตเอทานอลมากขึ้น ขณะที่ค่าเงินของบราซิลแข็งค่าขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และกองทุนน้ำตาลยังคงลงทุนในสถานะ Long ปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดยังคงสนับสนุนราคาน้ำตาลให้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น

อย่างไรก็ตามแนวโน้มปี 2565 คาดว่าผลผลิตอ้อยจะปรับตัวขึ้น 20-30% ดังนั้นคาดว่าปริมาณหีบอ้อยทั่วประเทศจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 85-90 ล้านตัน จากปี 2564 อยู่ที่ 66.7 ล้านตัน ดังนั้นคาดว่าปริมาณอ้อยเข้าหีบของ KSL ในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่  6.14 ล้านตัน จากปี 2564 อยู่ที่ 4.77 ล้านตัน

“มองว่าอุตสาหกรรมอ้อยน้ำตาลได้ผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากไปแล้วในเรื่องของภัยแล้ง ปริมาณอ้อยก็เริ่มกลับมา ราคาอ้อยก็เริ่มจูงใจ  เราก็หวังว่าใน 2-3 ปี ข้างหน้าอ้อยจะกลับมาสู่ระดับ 100 กว่าล้านตันได้ ก็จะเป็นทิศทางที่อุตสาหกรรมอ้อยกลับมาสู่ภาวะที่สดใสอีกครั้ง”นายชลัช กล่าว

นอกจากนี้บริษัทย่อย บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ BBGI ซึ่ง KSL ถือหุ้นในสัดส่วน 40% และบริษัท บางจาก จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ถือ 60% เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หากสามารถเข้าได้ในปี 2565 คาดว่าจะช่วยต่อยอดในเรื่องของธุรกิจไบโอ

ขณะเดียวกันบริษัทก็ถือหุ้นใน บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล  จำกัด (มหาชน) หรือ UBE ในสัดส่วน 21.3% ที่ได้เข้าจดทะเบียนไปแล้ว โดยภายหลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ KSL ลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือราว 10% คาดว่าจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนเข้ามาในไตรมาส 1/65 และคาดว่าผลงานไตรมาส 1ปีนี้จะออกมาดีตามปริมาณอ้อยและราคาน้ำตาลโลกปรับขึ้นและหนุนผลงานปีนี้โตต่อเนื่องได้

Back to top button