“หุ้นเอเชีย” ผันผวน! กังวลจีนโควิดระบาดหนัก-ราคาน้ำมันแปรปรวน

“หุ้นเอเชีย” ผันผวน! กังวลโควิดระบาดหนักในจีน ส่วนราคาน้ำมันยังคงผันผวนเนื่องจากวิกฤตการสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและแดนลบ ขณะที่นักลงทุนจับตาการระบาดของโควิด-19 ในจีน ส่วนราคาน้ำมันยังคงผันผวนเนื่องจากวิกฤตการสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน

โดยดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 25,338.64 จุด เพิ่มขึ้น 175.86 จุด หรือ +0.7%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,203.84 จุด ลดลง 349.95 จุด หรือ -1.70% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3271.89 จุด ลดลง 37.86 จุด หรือ -1.14%

สำหรับบรรยากาศการซื้อขายในภูมิภาคถูกกดดัน หลังมีรายงานว่า จีนพบผู้ติดชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นเกือบ 3,400 รายเมื่อวานนี้ (13 มี.ค.2565) ขณะที่ทางการเร่งสกัดการแพร่ระบาดที่รุนแรงที่สุดในรอบสองปี ซึ่งนำไปสู่การล็อกดาวน์ในหลายพื้นที่ ล่าสุดนั้น รัฐบาลจีนประกาศล็อกดาวน์เมืองเซินเจิ้นเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ โดยมาตรการล็อกดาวน์อาจส่งผลให้เกิดภาวะติดขัดด้านการขนส่งและการผลิตในเมืองเซินเจิ้น ซึ่งเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีของจีนและมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 17.5 ล้านคน

อีกทั้งรายงานระบุว่า จีนจะล็อกดาวน์เมืองเซินเจิ้นจนถึงวันที่ 20 มี.ค. 2565 โดยจะปิดระบบขนส่งรถประจำทางและรถไฟใต้ดินทั้งหมด นอกจากนี้ ภาคธุรกิจในเมืองนี้จะถูกสั่งให้ปิดทำการทั้งหมด ยกเว้นธุรกิจการบริการที่จำเป็น ส่วนบรรดาพนักงานจะถูกร้องขอให้ทำงานจากที่บ้านหากสามารถทำได้ และชาวเมืองเซินเจิ้นจะถูกสั่งห้ามไม่ให้เดินทางออกนอกเมือง

ส่วนในเมืองอื่นๆ นั้น ยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นทั่วประเทศนำไปสู่การปิดโรงเรียนในเซี่ยงไฮ้ และล็อกดาวน์เมืองทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือหลายแห่ง

ด้านนักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ราคาน้ำมัน โดยสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ (11 มี.ค.2565) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับภาวะชะงักงันด้านอุปทานน้ำมัน ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน

ทั้งนี้สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 3.31 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 109.33 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลง 5.5% ในรอบสัปดาห์นี้ ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 3.34 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 112.67 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลง 4.6% ในรอบสัปดาห์นี้

อย่างไรก็ดีตลาดยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาควันนี้ ได้แก่ ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนม.ค. ของเกาหลีใต้ และการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือนม.ค. ของญี่ปุ่น

Back to top button