“ราชกิจจาฯ” ประกาศลดภาษีนำเข้า “อีวี” 40% มีผลถึง 31 ธ.ค.66

“ราชกิจจานุเบกษา” ประกาศลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่สําเร็จรูปที่นําเข้ามาทั้งคัน มีผลตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค.65-31 ธ.ค.66


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (3 พ.ค.2565) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่สําเร็จรูปที่นําเข้ามาทั้งคัน เพื่อประโยชน์แก่การเศรษฐกิจของประเทศ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๒ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. ๒๕๓๐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ในประกาศนี้

“รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่สําเร็จรูป” หมายความว่า รถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่ง ไม่เกินสิบคนแบบพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle : BEV) ซึ่งประกอบ สําเร็จรูปและนําเข้ามาทั้งคัน (Completely Built Up : CBU)

ข้อ ๒ ให้ลดอัตราอากรหรือยกเว้นอากรสําหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่สําเร็จรูป ที่นําเข้าตั้งแต่วันที่ประกาศนี้ใช้บังคับถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ ดังต่อไปนี้

(๑) รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่สําเร็จรูปที่มีราคาขายปลีกแนะนําไม่เกินสองล้านบาท ให้ได้รับการลดอัตราอากรหรือยกเว้นอากร ดังต่อไปนี้

(ก) ผู้นําของเข้าที่ใช้สิทธิพิเศษทางอากรศุลกากรภายใต้ความตกลงการค้าเสรีแล้ว ยังมีอัตราอากรที่ต้องชําระไม่เกินร้อยละสี่สิบ ให้ได้รับการยกเว้นอากร

(ข) ผู้นําของเข้าที่ใช้สิทธิพิเศษทางอากรศุลกากรภายใต้ความตกลงการค้าเสรีแล้ว ยังมีอัตราอากรที่ต้องชําระมากกว่าร้อยละสี่สิบ ให้ได้รับการลดอัตราอากรลงอีกร้อยละสี่สิบ

(ค) ผู้นําของเข้าที่ไม่ได้ใช้สิทธิพิเศษทางอากรศุลกากรภายใต้ความตกลงการค้าเสรี ให้ได้รับการลดอัตราอากรลงเหลือร้อยละสี่สิบ

(๒) รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่สําเร็จรูปที่มีขนาดตั้งแต่ ๓๐ กิโลวัตต์ชั่วโมงขึ้นไปและ มีราคาขายปลีกแนะนํามากกว่าสองล้านบาทแต่ไม่เกินเจ็ดล้านบาท ให้ได้รับการลดอัตราอากรหรือ ยกเว้นอากร ดังต่อไปนี้

(ก) ผู้นําของเข้าที่ใช้สิทธิพิเศษทางอากรศุลกากรภายใต้ความตกลงการค้าเสรีแล้ว ยังมีอัตราอากรที่ต้องชําระไม่เกินร้อยละยี่สิบ ให้ได้รับการยกเว้นอากร

(ข) ผู้นําของเข้าที่ใช้สิทธิพิเศษทางอากรศุลกากรภายใต้ความตกลงการค้าเสรีแล้ว ยังมีอัตราอากรที่ต้องชําระมากกว่าร้อยละยี่สิบ ให้ได้รับการลดอัตราอากรลงอีกร้อยละยี่สิบ

(ค) ผู้นําของเข้าที่ไม่ได้ใช้สิทธิพิเศษทางอากรศุลกากรภายใต้ความตกลงการค้าเสรี ให้ได้รับการลดอัตราอากรลงเหลือร้อยละหกสิบ

ข้อ ๓ การลดอัตราอากรหรือยกเว้นอากรตามข้อ ๒ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังต่อไปนี้

(๑) ผู้นําของเข้าตามข้อ ๒ (๑) ต้องแสดงหนังสือรับรองการแสดงการได้รับสิทธิจาก กรมสรรพสามิต (ยฟ. 06 – O๒/๑)

(๒) ผู้นําของเข้าตามข้อ ๒ (๒) ต้องแสดงหนังสือรับรองการแสดงการได้รับสิทธิจาก กรมสรรพสามิต (ยฟ. 09 – ๐๒/๒)

ข้อ ๔ ในกรณีที่ผู้นําของเข้าไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขที่กรมสรรพสามิตกําหนด และกรมสรรพสามิตได้แจ้งเพิกถอนหนังสือรับรองการแสดงการได้รับสิทธิสําหรับของใดกับกรมศุลกากรแล้ว ให้ถือว่าของนั้นไม่ได้รับสิทธิลดอัตราอากรหรือยกเว้นอากรตามประกาศนี้ตั้งแต่วันน้ําของเข้า และผู้นําของเข้ามีหน้าที่ต้องแจ้งขอชําระค่าภาษีอากรตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรและกฎหมายอื่น ที่เกี่ยวข้องภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ถูกเพิกถอนสิทธิ และต้องชําระค่าภาษีอากรให้เสร็จสิ้นภายใน สามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งจํานวนเงินค่าภาษีอากร แต่ไม่ถูกตัดสิทธิพิเศษทางอากรศุลกากรในการ ลดอัตราอากรหรือยกเว้นอากรตามความตกลงการค้าเสรีที่ได้ยืนไว้ในขณะนําของเข้า

ข้อ ๕ ผู้นําของเข้าต้องปฏิบัติตามพิธีการที่อธิบดีกรมศุลกากรประกาศกําหนด

ข้อ ๖ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

Back to top button