IHL อวดกำไร Q1 แตะ 46 ลบ. รับออเดอร์เบาะหนัง-ธุรกิจใหม่หนุน มั่นใจปีนี้โตต่อเนื่อง

IHL อวดกำไร Q1 แตะ 46 ลบ. อานิสงส์ออเดอร์ผลิตเบาะหนังรถยนต์ดีต่อเนื่อง-ธุรกิจใหม่หนุน มั่นใจปีนี้ผลงานโตต่อเนื่อง


บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) หรือ IHL รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2565 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.2565 ดังนี้

นายองอาจ ดำรงสกุลวงษ์ ประธานกรรมการบริหาร IHL เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 1/2565 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2565) มีกำไรสุทธิ 46.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.02% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 45.47 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 476.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.03% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 444.87 ล้านบาท

โดยปัจจัยหลักที่ทำให้ผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นมาจากการรับรู้รายได้จากธุรกิจผลิตเบาะหนังรถยนต์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก ที่มีคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) เข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งรายได้อื่นๆ โดยเฉพาะธุรกิจฟอกหนังรองเท้าที่เพิ่มขึ้น

“ผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2565 บริษัทฯ สามารถทำกำไรได้ดีต่อเนื่อง จากอุตสาหกรรมรถยนต์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ กำลังซื้อของผู้บริโภคที่ต้องการรถยนต์ที่ตอบสนองการใช้งานในชีวิตประจำวัน รวมถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมา ส่งผลให้ออเดอร์ผลิตเบาะหนังรถยนต์มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ สามารถเดินเครื่องการผลิตได้เต็มกำลังการผลิต รวมทั้ง ธุรกิจใหม่เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น จึงมั่นใจว่า ผลการดำเนินงานโดยรวมในปีนี้ จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ได้” นายองอาจ

ด้านนายวศิน ดำรงสกุลวงษ์ กรรมการ และผู้จัดการทั่วไป IHL กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2565 คาดว่ายังมีทิศทางที่ดี เนื่องจากธุรกิจผลิตเบาะหนังรถยนต์ ยังมีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนกลุ่มธุรกิจใหม่ ทั้งธุรกิจฟอกหนังรองเท้า ปัจจุบันมีลูกค้า 3 ราย และอยู่ระหว่างการเจรจาอีกหลายราย คาดว่าจะเห็นความชัดเจนเร็วๆ นี้ จำนวน 1 ราย  ส่วนธุรกิจผลิตหนังเฟอร์นิเจอร์ยังมีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

สำหรับธุรกิจขนมขบเคี้ยวสุนัข ปัจจุบันมีวางจำหน่ายภายใต้แบรนด์ “MOMO & FRIENDS” ผ่านช่องทางออนไลน์ทั้ง www.facebook.com/MomoFriends.official/ ,instagram.com/momoandfriendsth?igshid=YmMyMTA2M2Y=  และ LINE ID : lin.ee/N33Sarq

นอกจากนี้บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายไปยังห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาทางธุรกิจ รวมทั้งการขยายตลาดไปยังต่างประเทศในรูปแบบรับจ้างผลิต (OEM) เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมีการส่งออกไปยังประเทศเกาหลี พร้อมทั้ง มีการส่งออกในรูปแบบวัตถุดิบหนังวัวไปยังประเทศเวียดนามและกัมพูชา ขณะเดียวกัน ยังมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจใหม่ๆ ที่เป็นการต่อยอดจากธุรกิจหลัก ซึ่งคาดว่า จะมีความชัดเจนภายในปีนี้ เพื่อเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นได้อย่างสม่ำเสมอ

Back to top button