จับตา! ครม.ไฟเขียว “เหมืองแร่โปแตช” อุดรธานี แก้วัตถุดิบปุ๋ยแพง

วาระการประชุม ครม.วันนี้ต้องจับตาการพิจารณาโครงการเหมืองแร่โปแตช จังหวัดอุดรธานี หลังกระทรวงอุตสาหกรรมสอบถามความด้านสิ่งแวดล้อม และด้านกฎหมายมาแล้ว คาดจะสามารถผลิตวัตถุดิบต้นทุนปุ๋ย 2 ล้านตันต่อปี


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.วันนี้ (28 มิ.ย. 65) ต้องจับตาวาระการประชุมที่น่าสนใจ คือวาระของกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเสนอเรื่องผ่านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ขอให้การพิจารณา โครงการเหมืองแร่โปแตช จังหวัดอุดรธานี โดยได้บรรจุเรื่องนี้เอาไว้เป็นวาระเพื่อพิจารณา กระทรวงอุตสาหกรรมได้นำเสนอโครงการเหมืองแร่โปแตช หลังจากได้ทำหนังสือขอความคิดเห็นประกอบจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แล้ว และได้รวบรวมรายละเอียด เพื่อนำเสนอให้ที่ประชุมครม.พิจารณา จากนั้นจึงพิจารณาอนุญาตประทานบัตรต่อไป

สำหรับการดำเนินโครงการที่ผ่านมา บริษัท เอเซีย แปซิฟิค โปแตช คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้ยื่นขอประทานบัตรไปแล้ว โดยเหมืองดังกล่าว มีแผนการผลิต 2 ล้านตันต่อปี ประเมินว่า จะมีปริมาณการผลิตตลอดอายุโครงการอยู่ที่ 33.67 ล้านตัน หากโครงการนี้ผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุมครม. เชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบปุ๋ยจากต่างประเทศได้

นอกจากนี้ ครม.จะมีการหารือต่อเนื่องกับการแก้ปัญหาค่าครองชีพของประชาชน ที่ ครม.มีการออกชุดมาตรการไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ในส่วนที่ยังไม่มีความชัดเจนคือการขอเก็บเงินกำไรบางส่วนจากโรงกลั่น เพื่อนำมาเสริมสภาพคล่องให้กับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปัจจุบันมีสถานะติดลบกว่า 1 แสนล้านบาท

โดยกระทรวงพลังงาน จะนำเสนอผลการหารือกับภาคเอกชนโรงกลั่นน้ำมันทั้ง 6 ราย ถึงประมาณการกำไรที่จะส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งนี้แต่เดิมเคยมีตัวเลขจากการแถลงของนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงานว่า จะมีการเก็บเงินกำไรจากโรงกลั่นสูงสุด 2.8 หมื่นล้านบาท ขณะที่นานสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน บอกว่ายังไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับตัวเลขที่แน่นอน ต้องมีการหารือกับเอกชนให้ได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ด้านคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ  ป.ป.ช. เสนอมาตราการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ในที่ดินองรัฐโดยมิชอบ กรณีปัญหาการบุกรุกละการใช้ประโยชน์ในที่ดินป่าไม้

ส่วนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดให้พื้นที่ตำบลตาสิทธิ์ ตำบลหนองไร่ ตำบลาบยางพร ตำบลปลวกแดง ตำบลละหาร ตำบลแม่น้ำคู้ อำเภอปลวกแดง ตำบลหนองบัว ตำบลหนองละลอก อำเภอบ้านค่าย และ อำเภอพนานิคม อำเภอมะขามคู่ อำเภอนิคมพัฒนา ตำบลมาบข่า อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง เป็นเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม พ.ศ…

Back to top button