หุ้นเนื้อไก่น่าสะสม! ชู GFPT–CPF ท็อปพิก รับราคาขายพุ่ง-ต้นทุนลด

2 โบรกชี้ราคาเนื้อไก่ในประเทศ 2 สัปดาห์เพิ่มขึ้น 3% แตะ 40.5 บ./กก. หนุนผลงานไตรมาส 2-3 ของ GFPT เด่นจากราคาขายเพิ่ม–ต้นทุนอาหารสัตว์ลด แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้า 13.80 บาท ส่วน CPF ได้แรงหนุนจากตลาดจีนฟื้น–บริหารต้นทุนดี แนะนำ “ซื้อ” เป้า 35.00 บาท


บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุผ่านบทวิเคราะห์ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาเนื้อสัตว์ภายในประเทศมีแนวโน้มที่คละกัน โดยที่ราคาไก่ในประเทศยังแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น 3% อยู่ที่ 40.5 บาทต่อกิโลกรัม สนับสนุนจากปริมาณการส่งออกมากขึ้น

สวนทางกับราคาหมูปรับตัวลดลงต่อ 5% อยู่ที่ 79.5 บาทต่อกิโลกรัม แสดงให้เห็นว่าอุปสงค์ในประเทศอ่อนแอ รวมทั้งราคาหมูในเวียดนามก็ปรับตัวลดลง 2% เทียบระหว่างเดือนอยู่ที่ 67,049 ดองต่อกิโลกรัมในเดือนพฤษภาคม 2568 ผลจากอุปทานกลับมาแต่อุปสงค์ยังคงต่ำมาก

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายนักวิเคราะห์ยังคงมองราคาหมูในประเทศไทยและเวียดนามอย่างระมัดระวัง บนสมมติฐานที่คาดการณ์ว่าอุปสงค์จะอ่อนตัวลง ในขณะเดียวกัน ราคาหมูในจีนเพิ่มขึ้น 8% อยู่ที่ 15.30 หยวนต่อกิโลกรัม

ด้านตลาดอาหารสัตว์ในปัจจุบันยังคงเป็นประโยชน์ต่อผู้ผลิตเนื้อสัตว์ต่างๆ ผลบวกจากทั้งราคากากถั่วเหลืองทั่วโลกและราคาข้าวโพดในประเทศยังคงลดลงต่อเนื่อง ขณะที่ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาถั่วเหลืองได้ปรับตัวลดลง 2% อยู่ที่ 292.2 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เพราะสภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อผลผลิตพืชผลทั่วโลก รวมทั้งความคาดหวังอีกว่าผลผลิตจะเพิ่มขึ้นในฤดูกาลที่จะมาถึงนี้

ทั้งนี้ ราคาข้าวโพดในประเทศปรับตัวลดลง 2% มาอยู่ที่ 10.8 บาทต่อกิโลกรัม ส่งผลให้ต้นทุนอาหารสัตว์ลดลง ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่ออุตสาหกรรมเลี้ยงหมู แม้ว่า Spread ราคาหมู (ส่วนต่างระหว่างราคาขายและต้นทุน) จะปรับลดลงมาอยู่ที่ 57.6 บาทต่อกิโลกรัมในเดือนมิถุนายน แต่คาดว่า Margin Spreads ของผู้ประกอบการยังมีแนวโน้มดีขึ้นในไตรมาส 2/68 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากราคาวัตถุดิบหลักอย่างข้าวโพดและราคาเนื้อสัตว์ที่ปรับลดลง ช่วยหนุนต้นทุนการผลิตให้ลดลงตาม

ฝ่ายนักวิเคราะห์มองว่า Spread ราคาของไก่อาจปรับลดลงเล็กน้อยในไตรมาส 2/2568 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ในระยะข้างหน้า ยังคงต้องติดตามแนวโน้มราคาเนื้อสัตว์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีความเสี่ยงที่ราคาขายเนื้อสัตว์อาจลดลงในอัตราที่เร็วกว่าอัตราการลดลงของต้นทุนอาหารสัตว์ ซึ่งอาจส่งผลให้ส่วนต่างกำไร (spread) แคบลงในไตรมาส 3/2568

ในขณะเดียวกัน จากข้อมูลล่าสุด สหรัฐฯอาจพิจารณาเรียกเก็บภาษีศุลกากรในอัตรา 36% ต่อสินค้านำเข้าจากบางประเทศ รวมถึงประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยประเมินว่าการส่งออกไก่ของไทย (ทั้งไก่แช่แข็งและไก่แปรรูป) ไม่น่าจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากมาตรการภาษีดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยไม่ได้มีการส่งออกไก่ไปยังตลาดสหรัฐฯ อยู่แล้ว

ขณะที่ ตลาดหลักๆ ของผู้ส่งออกไก่ไทย คือ ญี่ปุ่น คิดเป็นสัดส่วน 41% ของการส่งออกในปี 2567 จีนสัดส่วน 10% และ สหภาพยุโรปสัดส่วน 9% ในบรรดาผู้แปรรูปอาหารสามรายภายใต้การวิเคราะห์ของฝ่ายนักวิเคราะห์ บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT มีสัดส่วนการส่งออกสูงสุด 25% ในปี 2567

ส่วน บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG การส่งออกคิดเป็นสัดส่วน 12% และ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG มีรายได้จากการส่งออกคิดเป็นสัดส่วน 9%

ทั้งนี้ ฝ่ายนักวิเคราะห์ยืนยันมุมมองที่ระมัดวังต่อผู้ลิตเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะผู้ผลิตหมู แต่อย่างไรก็ตามยังชื่นชอบ GFPT เป็นหุ้น Top pick ในกลุ่มเพราะบริษัทน่าจะได้รับประโยชน์เต็มที่จากราคาไก่ในประเทศที่เพิ่มขึ้น

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุผ่านบทวิเคราะห์ ราคาไก่เพิ่มขึ้น 1.30% เมื่อเทียบระหว่างสัปดาห์ อยู่ที่ 40 บาท (ต้นทุน 37-38 บาท) จากความต้องการเพิ่มขึ้นและเริ่มเข้าสู่ช่วง High season การส่งออกราคาสุกรไทยลดลง 2.3% เมื่อเทียบระหว่างสัปดาห์ที่ 80 บาท (ต้นทุน 64-65 บาท) จากความต้องการลดลงในช่วงฤดูฝน

ขณะที่ราคาสุกรจีนเพิ่มขึ้น 4.9% เมื่อเทียบระหว่างสัปดาห์ที่ 15.18 หยวน หรือ 69.35 บาท (ต้นทุนการเลี้ยง 14-15 หยวน) สูงที่สุดในรอบ 3.5 เดือน จากความต้องการเพิ่มขึ้น ประกอบกับรัฐบาลจีนพยายามปราบปรามหมูไซส์ใหญ่เกินขนาด ราคาสุกรเวียดนาม ลดลง 2.9% เมื่อเทียบระหว่างสัปดาห์ อยู่ที่ 67,667 ดอง หรือ 87.97 บาท (ต้นทุนการเลี้ยง 43,000 ดอง) โดยราคาลดลงในทุกภูมิภาคคาดความต้องการลดลงในช่วงหน้าฝน

ทั้งนี้ ฝ่ายนักวิเคราะห์ให้น้ำหนักกลุ่ม NEUTRAL โดยเลือก GFPT เป็น Top pick แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 13.80 บาท จากราคาไก่ที่ยืนทรงตัวดีและคาดได้ประโยชน์ในช่วงไตรมาส 3/68 ที่จะเข้าสู่ High season ในการส่งออกและไม่ถูกกระทบจากประเด็น US Tariff รวมถึงแนะนำ “ซื้อ” บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ราคาเป้าหมาย 35.00 บาทได้รับอานิสงส์จากราคาหมูไทยและเวียดนามที่เคยอยู่ในระดับสูงลดลงเพราะราคาหมูไทย-เวียดนามชะลอตัวต่อเนื่อง

Back to top button