ส่งออกผลไม้ไทยไปจีน ครึ่งปีแรก ทะลุ 1 ล้านตัน โกยรายได้ 8 หมื่นล้าน

ฟรุ้ทบอร์ทปลื้มส่งออกผลไม้ไทยไปจีนแผ่นดินใหญ่ 6 เดือนแรกปี2565 ทะลุ 1 ล้านตัน สร้างรายได้ 8 หมื่นล้านบาท เดินหน้าจับมือ 22 จังหวัด รับมือผลไม้ใต้ ลำไยเหนือ กว่า 1.2 ล้านตันออกสู่ตลาดเร็วๆนี้


ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ได้มอบหมายให้นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ครั้งที่ 3/2565 โดยนายอลงกรณ์ กล่าวว่า ที่ประชุมฟรุ้ทบอร์ทมีความพอใจอย่างมากในผลงานการส่งออกผลไม้ไทยไปจีนครึ่งปี2565 เกิน 1 ล้านตัน ไปแล้วซึ่งมากกว่าปี 2564 กว่า 120,000 ตัน สามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรผู้ประกอบการและประเทศกว่า 8 หมื่นล้านบาท

พร้อมกันนี้ที่ประชุมได้แสดงความพอใจและกำชับให้มีการเตรียมพร้อมล่วงหน้ารับมือลำไยภาคตะวันออกที่จะออกช่วงปลายปี 2565 พร้อมเห็นชอบโครงการช่วยเหลือเยียวยาชาวสวนลำไยฤดูกาลที่แล้วจากผลกระทบโควิด-19 และได้ร่วมมือกับ 22 จังหวัดบริหารจัดการเชิงรุกผลไม้ภาคใต้ และลำไยในภาคเหนือเหนือ รวมทั้งสิ้น 22 จังหวัด

ในขณะเดียวกันยังได้สั่งการฟรุ้ทบอร์ดเร่งเดินหน้าแผนปฏิบัติการพัฒนาผลไม้ปี 2565 – 2570 เพิ่มศักยภาพสู่เป้าหมายเกษตรมูลค่าสูง ชูนโยบายคุณภาพและมาตรฐาน เน้นพัฒนาพันธุ์ใช้เทคโนโลยีเพิ่มการแปรรูป สร้างแบรนด์ขยายตลาดและการปฏิรูปการบริหารจัดการ การสร้างแบรนด์ผลไม้ การใช้ระบบตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability system) การขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ และการปฏิรูปการบริหารจัดการผลไม้ของฟรุ้ทบอร์ดอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของผลไม้ไทยตลอดห่วงโซ่การผลิต การแปรรูป จนถึงการตลาด และรับมือกับการเพิ่มขึ้นของพื้นที่การปลูกทุเรียน ตลอดจนการแข่งขันที่จะเพิ่มขึ้นในตลาดส่งออกในจีนและทั่วโลก

นอกจากนี้ฟรุ้ทบอร์ดยังได้มีการติดต่อสำนักงานที่ปรึกษาเกษตรต่างประเทศ ณ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อประสานความร่วมมือข้อมูลด้านการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) ด้านพัฒนาการผลิตผลไม้ เช่นR&D Platform ภายใต้โครงการการพัฒนาเมล็ดพันธุ์ จากประเทศญี่ปุ่น รวมทั้ง การพัฒนาด้านบรรจุภัณฑ์ และโลจิสติกส์ เพื่อนำมาใช้เป็นแนวทางการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ภายในประเทศ และพร้อมนำเสนอคณะกรรมการฯ ในการประชุมครั้งต่อไป ทั้งนี้จะเป็นการส่งเสริม และเพิ่มโอกาสการส่งออกให้ผู้ประกอบการในตลาดญี่ปุ่น

Back to top button