“ฟินันเซีย” เชียร์ “ซื้อ” DMT เป้า 16 บ. ชู “พีอีต่ำ” กำไรปี 65 โตทะลัก 113%

“บล.ฟินันเซีย ไซรัส” แนะนำ "ซื้อ" DMT ราคาเป้าหมาย 16 บาท มองผลประกอบการ Q1/65 ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ชี้ P/E ต่ำ ปันผลสูง คาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากปีที่แล้วแตะระดับ 859 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 113% ส่วนรายได้คาดจะก้าวกระโดดไปที่ 1,984 ล้านบาท หรือเติบโต 65% รับอานิสงส์นักท่องเที่ยวคัมแบ็คในปี 65-66


บทวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ เกี่ยวกับ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT ว่า การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวที่เข้ามา น่าจะช่วยกระตุ้นรายได้ค่าผ่านทางของ DMT ให้เพิ่มขึ้นได้ โดยมีปัจจัยบวกซึ่งประกอบไปด้วย 1.ในปัจจุบันสถานการณ์โควิดอยู่ภายใต้การควบคุม 2.การกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง และ 3.การเปิดภาคเรียนการศึกษาใหม่แบบ Onsite ได้เริ่มต้นแล้ว

ทั้งนี้ เชื่อว่าการจราจรบนทางยกระดับของ DMT ตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปีนี้เป็นต้นไปน่าจะกลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ยิ่งไปกว่านั้นจากการที่การจราจรของ DMT มีความสัมพันธ์อย่างมากกับจำนวนผู้โดยสารที่สนามบินดอนเมือง (DMK)

โดย ฟินันเซีย เชื่อว่าการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวจะเป็นปัจจัยบวกและส่งผลโดยตรงให้แก่ผลประกอบการของ DMT ในปี 65-66 จากข้อมูลที่มีการเปิดเผยจำนวนจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวน 8.5 ล้านคนในปีนี้และจะเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นเป็น 34.1 ล้านคนในปี 66 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 0.4 ล้านคนในปี 64 ที่มีการจำกัดการเดินทาง

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีผลประกอบการที่ไม่น่าตื่นเต้นมากนักในไตรมาสแรกปีนี้ เนื่องจากปริมาณการจราจรที่ปรับลดลงบนทางยกระดับ ซึ่งเชื่อว่าผลประกอบการของ DMT ในไตรมาส 1/65 ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และปริมาณการจราจรน่าจะกลับมาเติบโตอีกครั้ง ตามการฟื้นตัวของผู้โดยสารที่สนามบินดอนเมือง รวมทั้งจากการเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวตามที่กล่าวข้างต้น ทั้งนี้ ในเดือน เม.ย.65 จำนวนผู้โดยสารที่สนามบินดอนเมืองพุ่งขึ้นแตะ 1.1 ล้านคน ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงสุดในรอบ 16 เดือน

เชื่อมั่นว่าโมเมนตั้มของการฟื้นตัวของผู้โดยสารที่สนามบินดอนเมือง และการเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวนี้น่าจะยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งDMT ก็น่าจะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้โดยตรง” บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าว

คาดการณ์ปริมาณการจราจรของ DMT แตะที่ 34.4 ล้านเที่ยวในปี 65 โดยมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในอัตรา 65% จากปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการคาดการณ์ของฝ่ายวิจัยยังต่ำกว่าปริมาณการจราจรในปี 63 ที่มีจำนวน  34.9 ล้านเที่ยว และ 53.8 ล้านเที่ยวในช่วงก่อนโควิดในปี 2562 ตัวชี้วัดต่างๆ ตามที่กล่าวข้างต้น เช่น การคาดการณ์ของจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2565 ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย 8.5 ล้านคน ซึ่งมากกว่าตัวเลข 6.7 ล้านคนในปี 63 โดยคาดว่ารายได้ค่าผ่านทางของ DMT จะก้าวกระโดดไปที่ 1,984 ล้านบาท (+65% เทียบกับปีก่อน) ในปี 65

อย่างไรก็ตาม DMT มีการบริหารการจัดการต้นทุนดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพและก้าวข้ามจากวิกฤตโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา (63-64) โดยที่ต้นทุนจากการตัดจ่ายต้นทุนสัมปทานตามปริมาณการจราจรที่เกิดขึ้นจริงที่จะเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของปริมาณการจราจร ในส่วนของของค่าใช้จ่ายด้านการบำรุงรักษาทางยกระดับเป็นไปตามแผนงานการบำรุงรักษาตามหลักการทางวิศวกรรมตามมาตรฐาน ดังนั้น คาดว่ากำไรสุทธิของ DMT จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากปีที่แล้วไปที่ระดับ 859 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรา 113% ในปี 65

ทั้งนี้ FSS ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายใหม่ด้วยวิธี DCF ที่ 16 บาท ลดลงจาก 17 บาท โดยปัจจัยบวกจาก 1.ผลประกอบการในไตรมาส 1 ปี 65 ได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว 2.โมเมนตั้มในการฟื้นตัวที่ต่อเนื่องซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย และ 3. ด้วยค่า P/E ที่ต่ำ และอัตราเงินปันผลที่ประเมินไว้ 5% ในปี 65 และ 8% ในปี 66 ทั้งนี้ ราคาเป้าหมายที่คาดการณ์นั้นไม่ได้รวมความเป็นไปได้ที่ DMT จะชนะการประมูลในโครงการต่างๆ ในปีหน้า

Back to top button