“บล.กสิกรไทย” ชู DTAC ท็อปพิก ลุ้นดีลควบรวมคืบ-แชร์สวอปสิ้นปีนี้

“บล.กสิกรไทย” ชู DTAC ท็อปพิก ราคาเป้าหมาย 58.43 บ. มั่นใจดีลควบรวมจะเกิดขึ้น คาดทำแชร์สวอปคาดจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้


บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ราคาหุ้น บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC ร่วงลง 5.29% และ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ร่วงลง 6.2% ในวันศุกร์ที่ผ่านมานั้น เกิดจากรายงานข่าวที่ไม่มีหลักฐานอ้างอิงเกี่ยวกับอนุฯของกสทช.โหวตด้วยเสียงส่วนมากไม่เห็นด้วยกับการควบรวมของทั้งสองบริษัท โดยในภายหลังทั้งกสทช., DTAC และ TRUE ได้ออกมาประกาศโต้รายงานข่าวที่เกิดขึ้น โดยระบุว่ากสทช.จะสรุปรายงานที่ได้จากอนุฯ ในวันที่ 3 ส.ค. เพื่อส่งให้บอร์ดพิจารณา

ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยได้ติดต่อไปที่เจ้าหน้าที่อาวุโสในกสทช. และหนึ่งในเจ้าหน้าที่ของอนุฯ กสทช.ที่ทำรายงานเกี่ยวกับการควบรวมครั้งนี้ โดยเจ้าหน้าที่อาวุโสจากกสทช.ระบุว่า ขณะนี้ทางกสทช.ไม่ได้รับข้อมูลจากเพียงบอร์ดอนุฯ เท่านั้น แต่ยังหาข้อมูลจากที่ปรึกษานอกองค์กรด้วย ส่วนเจ้าหน้าที่ในหนึ่งในอนุฯ ที่ฝ่ายวิเคราะห์ติดต่อไประบุว่าได้ส่งรายงานให้กับกสทช.แล้ว แต่เน้นย้ำว่ารายงานนั้นไม่ได้มีการแนะนำให้อนุมัติหรือไม่อนุมัติการควบรวมของ DTAC และ TRUE โดยรายงานเป็นเพียงการให้ข้อมูลข้อดี และข้อเสียเท่านั้น

โดยหลังจากที่มีกระแสข่าวเมื่อวันศุกร์ ทางเทเลนอร์ และซีพีกรุ๊ปได้จัดแถลงข่าวขึ้นทันที โดยมีประเด็นที่น่าสนใจ ได้แก่ (1) ระบุว่าการควบรวมกิจการในครั้งนี้เป็นความร่วมมือที่เท่าเทียมกันทั้งสองฝ่าย จึงไม่น่าจะมีความจำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจาก กสทช. ซึ่งต่างจากการที่ ADVANC เข้าซื้อหุ้น TTTBB 100% (2) มองว่าน่าจะเป็นผลดีต่อตลาดที่จะมีสองกิจการที่มีความเท่าเทียมกัน แทนที่กับการมีกิจการที่แข็งแกร่งเพียงเจ้าเดียว และมีรายย่อยอื่นๆที่อ่อนแอกว่า (3) ทั้งสองฝ่ายเรียกร้องขอให้กสทช.ปฏิบัติตามหน้าที่ และไม่ยืดเวลาออกไปจากกำหนดการเดิม

ขณะเดียวกันทางฝ่ายวิจัยยังคงมั่นใจว่าการควบรวมจะเกิดขึ้น โดยมองว่า (1) กสทช.น่าจะมีอำนาจในการอนุมัติ หรือไม่อนุมัติการควบรวม (2) วันที่ลงความเห็นของกสทช.เลื่อนจาก 10 ก.ค. เป็น 10 ส.ค. (3) ศาลปกครองกลางจะใช้เวลา 2-3 เดือนก่อนที่จะยกฟ้องคำร้องคำสั่งห้ามควบรวม (4) การทำแชร์สวอปคาดจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้

ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยคาดว่ามูลค่าจากการทำซินเนอร์ยี่ทางธุรกิจจะอยู่ที่ 3-4 พันล้านดอลลาร์ และจะเริ่มขึ้นในปี 2566-2567

อย่างไรก็ดียังคงมุมมองบวกต่อกลุ่มสื่อสาร โดยให้ DTAC เป็นท็อปพิกในกลุ่มจาก (1) การควบรวมจะเสร็จสมบูรณ์เร็วกว่าคาด (2) มูลค่าจากการทำซินเนอร์ยี่สูงกว่าคาด โดยฝ่ายวิเคราะห์แนะนำนักลงทุนว่าให้เข้าซื้อในจังหวะที่ตลาดมีมุมมองเชิงลบต่อการควบรวม และขายทำกำไรเมื่อตลาดให้ความมั่นใจสูงว่าการควบรวมจะสำเร็จ

นอกจากนั้นแล้วยังมีบางปัจจัยที่จะเป็นความเสี่ยงต่อการควบรวมของ DTAC และ TRUE ซึ่งก็คือ (1) ความล้มเหลวการควบรวมจากสาเหตุต่างๆ (2) การเยียวยาจากกสทช.ที่ไม่ดีพอ (3) การแข่งขันหลังควบรวมยังคงสูง (4) กสทช.เปิดประมูลคลื่น 3.5GHz ในปลายปีนี้

โดยหากดีลล่มอาจต้องตัดมูลค่าส่วนเกินที่ตลาดได้รับออกไปจากราคาเป้าหมายที่ให้ไว้ ซึ่งกำหนดราคาเป้าหมายของ ADVANC ไว้ที่ 45.35 บาท, DTAC ไว้ที่ 24.86 บาท และ TRUE ไว้ที่ 2.33 บาท นอกจากนั้นแล้วยังมองว่าตลาดจะเลิกให้ความสนใจกลุ่มสื่อสารหากการควบรวมระหว่าง ADVANC และ TTTBB ไม่เกิดขึ้น

อนึ่งยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” DTAC พร้อมกำหนดราคาเป้าหมายไว้ที่ 58.43 บาท, TRUE กำหนดราคาเป้าหมายไว้ที่ 6.28 บาท และ ADVANC กำหนดราคาเป้าหมายไว้ที่ 249.45 บาท

Back to top button