เก็ง 15 หุ้นต่างชาติเข้าซื้อ ชู AOT-CRC-GULF-KBANK-MINT เด่น
เก็ง 15 หุ้นรับกระแสต่างชาติซื้อสะสมสูงสุดดันราคาพุ่ง นำโดย AOT ซื้อมากสุด 1.45 พันล้านบาท รองลงมา SCGP ซื้อ 585 ล้านบาท, BH ซื้อ 512 ล้านบาท ตามลำดับ และยังมี CRC, DIF, GULF, KBANK,MINT, HMPRO, BJC, DELTA, M, BEM, KTB และ EGCO
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อสะสมหุ้นไทยสุทธิเดือนสิงหาคมนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นขนาดใหญ่และกลางที่มีแนวโน้มฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นโอกาสของนักลงทุนเข้าเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มดังกล่าวที่ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามกระแสฟันด์โฟลว์ที่ไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง หลังจากงบบริษัทจดทะเบียนไตรมาสที่ 2/2565 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ล่าสุดเมื่อวานนี้ ต่างชาติซื้อสุทธิอีก 5,004 ล้านบาท ทำให้นับตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาจนถึงวานนี้ (16 ส.ค.65) ต่างชาติซื้อสุทธิ 29,335 ล้านบาท และนับจากต้นปีจนถึงปัจจุบันวานนี้ซื้อสุทธิรวม 146,686 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด หรือ ASPS ระบุ จากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่สร้างสถิติสูงสุด หรือ New High น่าจะสร้างแรงดึงดูดฟันด์โฟลว์เข้าสู่ตลาดหุ้นไทยได้ โดยหุ้นที่ซื้อสุทธิสูง และราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่เห็นสัญญาณฟื้นตัวของกำไรตามเศรษฐกิจของประเทศ อาทิ บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH, บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC, ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK, บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM และ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เป็นต้น
ขณะที่ Fund Flow ไหลกลับเข้าชัดเจนขึ้น ฝ่ายวิจัยจึงทำการค้นหาหุ้นที่ต่างชาติทยอยซื้อสะสมในเดือนนี้ (1-11 ส.ค. 2565) พร้อมกับราคาหุ้นมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น นับจากต้นเดือนถึงปัจจุบัน 15 ส.ค. หรือ mtd อาทิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,457 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.2%, บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ต่างชาติซื้อสุทธิ 585 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.7%,
บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH ต่างชาติซื้อสุทธิ 512 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.4%, บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ต่างชาติซื้อสุทธิ 469 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.5%, กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล หรือ DIF ต่างชาติซื้อสุทธิ 326 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.0%, บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ต่างชาติซื้อสุทธิ 285 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.8%
บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ต่างชาติซื้อสุทธิ 273 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.5%, บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC ต่างชาติซื้อสุทธิ 265 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.6%, บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO ต่างชาติซื้อสุทธิ 242 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.3%
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ต่างชาติซื้อสุทธิ 221 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.1%, บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ต่างชาติซื้อสุทธิ 178 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.4%, บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M ต่างชาติซื้อสุทธิ 167 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.9%, บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ต่างชาติซื้อสุทธิ 152 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 16.9%, ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ต่างชาติซื้อสุทธิ 133 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.9% และ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO ต่างชาติซื้อสุทธิ 115 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.2%