“ทองคำ” ปิดลบ 8.3 เหรียญ หลังบอนด์ยีลด์พุ่ง-ดอลลาร์แข็ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงในวันศุกร์ (19 ส.ค.65) แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์ และลดลงเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนก.ค. เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น และการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐกดดันราคาทอง

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 8.3 ดอลลาร์ หรือ 0.47% ปิดที่ 1,762.9  ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.65 และปรับตัวลง 2.9% ในรอบสัปดาห์นี้

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 39.5 เซนต์ หรือ 2.03% ปิดที่ 19.069 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 16.9 ดอลลาร์ หรือ 1.87% ปิดที่ 888 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 18 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 2,131.40 ดอลลาร์/ออนซ์

ขณะที่สัญญาทองคำปรับตัวลงในวันศุกร์ โดยถูกกดดันจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเพิ่มขึ้น และสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ

ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.63% แตะที่ระดับ 108.1630 ในวันศุกร์

ด้าน นายโธมัส บาร์คิน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์เปิดเผยในวันศุกร์ว่า เขาเชื่อว่า เฟดจะดำเนินการที่จำเป็นเพื่อทำให้เงินเฟ้อปรับตัวลงสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ซึ่งความเห็นของเขาทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นและส่งผลกระทบต่อราคาทอง