“กอนช.” กำชับ “กรมชล” เร่งระบายน้ำเหนือ รับมือฝนหนักก.ย.นี้

“กอนช.” สั่งกำชับ “กรมชลประทาน” เร่งระบายน้ำเหนือลงทะเล เตรียมรับมือล่วงหน้าหากจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำ รองรับฝนรอบใหม่ต้นเดือนก.ย.นี้


นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยว่า เนื่องจากมีคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นในช่วงเดือนก.ย.65 จากร่องมรสุมที่จะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนและเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น อาจส่งผลให้มีฝนตกเกิดน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาไหลลงเหนือเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับน้ำหลาก จึงขอให้กรมชลประทานพิจารณาพร่องระดับน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อให้มีพื้นที่รองรับน้ำหลากและหน่วงชะลอน้ำ

โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ กอนช. สั่งการให้ กอนช.ประเมินสถานการณ์น้ำและติดตามการบริหารจัดการน้ำอย่างใกล้ชิด และเน้นย้ำให้มีการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนในการเตรียมรับมือล่วงหน้าหากจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำ

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร มีความห่วงใยประชาชนเป็นอย่างมาก จึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสูบน้ำท่วมขังออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำโดยเร็วที่สุด พร้อมกำชับให้ปฏิบัติตามมาตรการเตรียมความพร้อมในการรับมืออุทกภัย ทั้งการกำหนดพื้นที่เฝ้าระวัง กำหนดเจ้าหน้าที่รับผิดชอบ พร้อมปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง รวมไปถึงการเตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักร เครื่องมือ ประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อให้สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ทันที และในกรณีที่จำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำ ให้กรมชลประทานดำเนินการแจ้งเตือนจังหวัดในพื้นที่ท้ายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมประชาสัมพันธ์ข้อมูล แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำ

ขณะเดียวกันกรมชลประทานยังเร่งดำเนินการพร่องน้ำในคลองชลประทานต่าง ๆ ในเขตพื้นที่ชลประทาน ให้เกษตรกรสามารถเก็บเกี่ยวได้แล้วเสร็จ เพื่อเตรียมการหากจำเป็นต้องใช้พื้นที่ลุ่มต่ำเป็นทุ่งรับน้ำหลากในช่วงตั้งแต่กลางเดือน ก.ย.นี้

โดยเกณฑ์การบริหารจัดการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยาในกรณีที่มีการระบายน้ำ และอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมด้านท้ายน้ำหรือเหนือน้ำนั้น คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ได้กำหนดให้หน่วยงานขออนุญาตต่อคณะอนุกรรมการอำนวยการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำล่วงหน้า 3 วัน เพื่อพิจารณาเห็นชอบ หากเป็นกรณีฉุกเฉินให้ขออนุญาตประธานคณะอนุกรรมการฯ พิจารณาเห็นชอบและให้รายงานคณะอนุกรรมการฯ ในโอกาสแรก

อีกทั้งในการอนุญาตนั้น กำหนดให้มีการปรับเพิ่มปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาแบบขั้นบันได และต้องบริหารจัดการน้ำและควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าวอย่างเต็มศักยภาพของพื้นที่ เพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชนและพื้นที่การเกษตร

โดยปัจจุบันปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามีแนวโน้มทรงตัวและลดลง โดยกรมชลประทานมีการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 1,500 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที

Back to top button