WHAUP กวาดรายได้ 9 เดือน แตะ 1.8 พันล้าน พ่วงปันผล 0.060 บ. XD 24 พ.ย.นี้

WHAUP กวาดรายได้ งวด 9 เดือนแรก แตะ 1.8 พันล้านบาท เตรียมจ่ายปันผล 0.060 บาท/หุ้น พร้อมขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 24 พ.ย.65 กำหนดจ่ายปันผลวันที่ 7 ธ.ค.65


บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/65 และงวด 9 เดือนปี 65 ดังนี้

บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2565 ว่า บริษัทรับรู้รายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติอยู่ที่ 691 ล้านบาท ลดลง 9% และมีกำไรปกติ (Normalized Net Profit) 90 ล้านบาท ลดลง 67% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้จากธุรกิจจำหน่ายน้ำและไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ยังคงแข็งแกร่งและเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่บริษัทได้รับปัจจัยลบจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรปกติจากธุรกิจไฟฟ้า SPP ที่บริษัทร่วมลงทุนลดลงเนื่องจากต้นทุนเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติที่สูงขึ้น

ขณะที่ในส่วนของกำไรสุทธิ ในไตรมาส 3/2565 อยู่ที่ 26 ล้านบาท ลดลง 87% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยน

ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 1,793.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,664.6 ล้านบาท อีกทั้งบริษัทมีรายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติ 2,136 ล้านบาท ลดลง 8% และมีกำไรปกติ 424 ล้านบาท ลดลง 42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากการลดลงของส่วนแบ่งกำไรปกติจากธุรกิจไฟฟ้า SPP เช่นเดียวกัน ในขณะที่มีกำไรสุทธิจำนวน 309 ล้านบาท ลดลง 47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยน

ขณะที่ นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WHAUP กล่าวว่า ผลการดำเนินงานกลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภคในไตรมาส 3/2565 บริษัทมีปริมาณการจำหน่าย และบริหารน้ำทั้งในประเทศ และต่างประเทศรวมกันเท่ากับ 37 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้น 4% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปี 2565 มียอดจำหน่ายน้ำและบริหารน้ำรวมทั้งในประเทศและต่างประเทศเท่ากับ 112 ล้านลูกบาศก์เมตร เติบโต 9% เนื่องจากความต้องการใช้น้ำในภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ความต้องการใช้น้ำมูลค่าเพิ่ม (Value added product) ไม่ว่าจะเป็นน้ำปราศจากแร่ธาตุ (Demineralized Water) และน้ำอุตสาหกรรมคุณภาพสูง (Premium Clarified Water) ก็ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน

ทั้งนี้ในไตรมาส 3/2565 ที่ผ่านมาโครงการผลิตน้ำอุตสาหกรรมคุณภาพสูงให้แก่ Gulf TS3&4 กำลังการผลิต 1.4 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ได้เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในขณะที่โครงการซื้อขายน้ำปราศจากแร่ธาตุกับ บริษัท พูแรค (ประเทศไทย) จำกัด ที่มีกำลังการผลิตกว่า 790,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี ได้เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ไปในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

ขณะที่ธุรกิจน้ำในประเทศเวียดนามมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 3/2565 มียอดจำหน่ายน้ำรวมตามสัดส่วนการถือหุ้นเท่ากับ 8 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้นถึง 33% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปี 2565 มียอดจำหน่ายน้ำรวมเท่ากับ 21 ล้านลูกบาศก์เมตร เติบโต 26% โดยมีปัจจัยหลักจากปริมาณการจำหน่ายน้ำโครงการ Duong River ที่เพิ่มขึ้น

ด้านธุรกิจพลังงาน บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรปกติจากธุรกิจไฟฟ้าในไตรมาส 3/2565 อยู่ที่ 115 ล้านบาท ลดลง 55% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน อันเป็นผลมาจากต้นทุนเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติในธุรกิจโรงไฟฟ้า SPP ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่ค่า Ft เพิ่งได้รับการปรับขึ้นเป็น 93.4 สตางค์ต่อหน่วยในเดือนกันยายน และยังไม่สะท้อนการเพิ่มของต้นทุนดังกล่าวทั้งหมด ทำให้มาร์จิ้นจากการขายไฟฟ้าให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมลดลง ส่งผลให้สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรปกติจากธุรกิจไฟฟ้า 405 ล้านบาท ลดลง 42%

อย่างไรก็ตามในไตรมาส 4/2565 จะเริ่มรับรู้การปรับค่า Ft ใหม่เต็มทั้งไตรมาส ซึ่งคาดว่าจะส่งผลบวกต่อผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจ SPP ดังกล่าว

ส่วนผลการดำเนินงานของธุรกิจไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในไตรมาส 3/2565 บริษัทรับรู้รายได้อยู่ที่ 75 ล้านบาท และ 9 เดือนแรกของปี 2565 อยู่ที่ 178 ล้านบาท ซึ่งถ้านับเฉพาะรายได้จากธุรกิจ Private PPA ใน 9 เดือนแรกของปี 2565 มีการเติบโตถึง 46% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดย ณ สิ้นไตรมาส 3/2565 บริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เปิดดำเนินการแล้วประมาณ 70 เมกะวัตต์ และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการพลังงานแสงอาทิตย์สะสมรวมแล้วทั้งสิ้น 131 เมกะวัตต์ จากเป้าที่ตั้งไว้ที่ 150 เมกะวัตต์ ภายในสิ้นปี 2565

สำหรับภาพรวมการขยายธุรกิจว่า บริษัทฯยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง และด้วยศักยภาพความแข็งแกร่งทางธุรกิจ โดยเฉพาะการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในการขับเคลื่อนกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรม ส่งผลให้บริษัทคว้ารางวัลในกลุ่ม Business Excellence  ประเภทรางวัล Best Innovative Company Awards ประจำปี 2565 ภายในงาน SET Awards 2022 ด้านนวัตกรรม :Peer-to-Peer Energy Trading: Future of Energy Market: ระบบโครงข่ายซื้อขายไฟฟ้าในพื้นที่อุตสาหกรรม

โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain ถือเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการเสริมสร้างนวัตกรรม สอดรับกับแผนขับเคลื่อนองค์กรการเติบโตแบบอย่างยั่งยืนในอนาคต โดยนับเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันที่บริษัทได้รับรางวัลด้าน Innovative Company Awards จากงาน SET Awards โดยในปีที่แล้ว บริษัทได้รับรางวัล Outstanding ด้านนวัตกรรมจากโครงการ Demineralized Reclaimed Water

นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับการรับเลือกเป็น ‘หุ้นยั่งยืน’ ประจำปี 2565 หรือ Thailand Sustainability Investment (THSI) 2022 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3  ซึ่งสะท้อนถึงการให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน รวมถึงมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ พัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างมั่นคงต่อเนื่อง พร้อมรับมือกับปัจจัยการเปลี่ยนแปลงด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม และให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน  ภายใต้การบริหารงานตามหลักบรรษัทภิบาล (Environment, Social and Governance : ESG) ด้วยผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงินที่ยังคงแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาล ในอัตราหุ้นละ 0.060 บาท โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 และกำหนดการจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 7 ธันวาคม 2565

Back to top button