DMT โชว์กำไร Q3 โต 4 เท่าตัว มั่นใจรายได้ปีนี้ 1.9 พันลบ.

DMT กวาดกำไรไตรมาส 3/65 โต 407% แตะ 214 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 42 ล้านบาท รับรายได้ค่าผ่านทางพุ่ง ดันงวด 9 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 545 ล้านบาท มั่นใจรายได้ปี 65 โต 50% แตะ 1.9 พันลบ.


บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/65 และงวด 9 เดือนปี 65 มีกำไรสุทธิ ดังนี้

ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการ DMT เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2565 บริษัทมีรายได้ค่าผ่านทาง 502.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 175% จากช่วงปีก่อนที่มีรายได้ 182.88 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 214.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 407% จากช่วงปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 42.27 ล้านบาท

โดยในไตรมาส 3/2565 ปริมาณการจราจรรวมสัมปทานเดิมและตอนต่อขยายด้านทิศเหนือเฉลี่ยต่อวันมีจำนวน 92,477 คันต่อวัน เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2/2565 ที่มีจำนวน 79,487  คันต่อวัน คิดเป็นเพิ่มขึ้น 16.3% และเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2564 ที่มีจำนวน 34,870 คันต่อวัน คิดเป็นเพิ่มขึ้น 165.2%

“ผลประกอบการในไตรมาส 3/2565 เติบโตอย่างโดดเด่น เนื่องจากปริมาณจราจรบนทางยกระดับที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้รายได้ค่าผ่านทางเพิ่มขึ้น โดยปี 2565 ภาครัฐไม่มีมาตรการการจำกัดการเดินทาง และบริษัทดำเนินการบริหารการจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายในด้านต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มจุดแข็งในสถานการณ์ของอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น โดยเป็นบริษัทที่ไม่มีภาระหนี้สินที่มีดอกเบี้ย หรือ Debt-Free Company ส่งให้บริษัทมีสภาพคล่องทางการเงินที่สูง สามารถสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืนในระยะยาวตลอดอายุสัมปทาน” ดร.ศักดิ์ดา กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทมีรายได้ค่าผ่านทาง 1,280.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57% จากช่วงปีก่อนที่มีรายได้ 817.59 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 544.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 119% จากช่วงปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 248.51 ล้านบาท

ทั้งนี้บริษัทยังคงดำเนินธุรกิจบนหลักการการบริหารจัดการและการควบคุมต้นทุนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการดำเนินงานในด้านต่างๆ ของบริษัทเพื่อไม่ให้ธุรกิจหยุดชะงัก สามารถวางรากฐานการพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืน (Sustainability Development) โดยการส่งมอบคุณค่าในด้านต่างๆ ให้กับผู้มีส่วนได้เสียอย่างเป็นรูปธรรม สามารถบริหารจัดการเพื่อให้ประสิทธิภาพในการให้บริการทางยกระดับเป็นไปตามมาตรฐาน ด้วยความสะดวกรวดเร็วและปลอดภัยให้กับผู้ใช้ทาง โดยไม่หยุดที่จะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไป

รวมถึงโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการตามแผนธุรกิจเพื่อความยั่งยืนปี 2565 ประกอบไปด้วย โครงการปรับปรุงระบบระบายน้ำใต้ทางแยกสุทธิสาร ระยะทาง 1,650 เมตร  กำหนดแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน โครงการงานปรับปรุงทาสี ZINC เสาไฟแสงสว่าง เฟสที่ 1 (จำนวน 370 ต้น) กำหนดแล้วเสร็จตุลาคม 2565 การพัฒนาการชำระด้วย QR Payment โครงการศึกษา ทดลอง ทดสอบ และพัฒนาระบบเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติ “แบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow)” ได้มีการพัฒนาอุปกรณ์ระบบ MLFF ตาม Specification ของ Single Platform เรียบร้อยแล้ว และอยู่ในขั้นตอนรอการทดสอบการเชื่อมต่อกับระบบ Single Platform ของกรมทางหลวง รวมทั้งมีการเตรียมการปรับปรุงระบบ Network System เพื่อรองรับระบบ M-Flow บนทางยกระดับอุตราภิมุข ทั้ง 9 ด่าน และติดตั้งระบบ M-Flow ต่อไป

นอกจากนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ค่าผ่านทางในปีนี้อยู่ที่ 1.9 พันล้านบาท คิดเป็นรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 5.25 ล้านบาทต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นกว่า 50% จากปีก่อนที่มีรายได้ค่าผ่านทางอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท เนื่องจากประเมินแนวโน้มปริมาณจราจรที่เพิ่มขึ้น ผลจากปัจจัยบวกที่ภาครัฐสร้างความมั่นใจให้เกิดกิจกรรมการเดินทางที่ประชาชนมีความเชื่อมั่นหลังจากภาครัฐประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง และยกเลิกมาตรการทุกอย่างที่เกี่ยวกับโควิด-19 ทำให้มีการเดินทางเพิ่มขึ้น

อีกทั้งปัจจัยบวกจากการเดินทางของสนามบินดอนเมือง ที่มีการคาดการณ์ประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยจะเพิ่มเป็น 10.3 ล้านคนในปี 2565 และ 28.3 ล้านคนในปี 2566 หลังจากรัฐบาลจีนมีแนวโน้มเริ่มเปิดประเทศผ่อนคลายการท่องเที่ยวช่วงปลายปีนี้ หากภาครัฐได้เปิดให้สายการบินระหว่างประเทศกลับมาบินเพิ่มมากขึ้น และคาดว่าจำนวนเที่ยวบินที่สนามบินดอนเมืองจะมีจำนวนมากขึ้น จะทำให้ปริมาณจราจรบนทางยกระดับเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

Back to top button