HEMP ใส่เงินเพิ่มทุน “มอร์ เมดดิคัล-เฮลท์อัพ” 70 ลบ. รุกเวชภัณฑ์ยา-สุขภาพเต็มสูบ

HEMP ลุยขยายกิจการเต็มสูบสู่ธุรกิจเวชภัณฑ์ยาและสุขภาพเดินหน้าใส่เงินเพิ่มทุน 70 ลบ. ใน “มอร์ เมดดิคัล-เฮลท์อัพ” เพื่อลงทุนในคลังสินค้ายาอัจฉริยะ Smart warehouse ภายใต้ชื่อ “Xserve Fulfillment


นายสามารถ ฉั่วศิริพัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮลท์ เอ็มไพร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ HEMP เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2565 มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนในบริษัทย่อยคือ บริษัท มอร์ เมดดิคัล จำกัด (MMD) จำนวน 70 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 700,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 100 บาท (เท่ากับมูลค่าที่ตราไว้) เพื่อนำเงินจำนวน 30 ล้านบาท ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

ส่วนเงินอีกจำนวน 40 ล้านบาท เพื่อเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนใน บริษัท เฮลท์ อัพ จำกัด (HU) โดยบริษัท มอร์ เมดดิคัล จำกัด (MMD) ถือหุ้น 40% ใน บริษัท เฮลท์ อัพ จำกัด (HU)

สำหรับวัตถุประสงค์การเพิ่มทุน เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้น 40% ใน บริษัท เฮลท์ อัพ จำกัด เนื่องจากบริษัทเฮลท์อัพ จำกัด มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนใหม่ 100 ล้านบาท รวมเป็นทุนจดทะเบียน 350 ล้านบาท (Par 100 บาท) ซึ่งการเพิ่มทุนเพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้น จะประโยชน์แก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้น สอดคล้องกับแผนการดำเนินธุรกิจ ในการขยายธุรกิจและต่อยอดกับธุรกิจที่มีอยู่ในปัจจุบัน เนื่องจาก บริษัท เฮลท์ อัพ จำกัด ประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าทางเภสัชกรรม ร้านขายปลีกสินค้าทางเภสัชภัณฑ์และเวชภัณฑ์ ซึ่งธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ยัง เป็นโอกาสที่จะขยายขอบเขตของธุรกิจขายส่งยาและอุปกรณ์เวชภัณฑ์ในการขยายคลังสินค้าอัจฉริยะ เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เพิ่มขีดความสามารถและโอกาสในการเติบโตที่จะสามารถสร้างรายได้และผลตอบแทนที่ดีให้แก่บริษัท

ด้านเภสัชกรวัชระ เปล่งสุรีย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮลท์ อัพ จำกัด กล่าวว่า บริษัททำธุรกิจร้านขายยาครบวงจรมีธุรกิจต้นน้ำ คือ การร่วมเป็นพันธมิตรกับ HEMP และธุรกิจกลางน้ำคือร้านค้าส่งกว่า 4 พันราย และธุรกิจปลายน้ำคือร้านขายยาเฮลท์ อัพกว่า 80 สาขาทั่วประเทศ โดยเฉพาะร้านขายยาของบริษัทอยู่ในทำเลที่ดี อยู่หน้าซุปเปอร์มาร์เก็ต และที่สำคัญเฮลท์อัพมีแวร์เฮ้าส์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการบริหารจัดการยา

“ธุรกิจร้านขายยาโดยเฉลี่ยเติบโตปีละ 2.5% แต่เราสามารถเติบโตได้ถึง 5% ซึ่งยอมรับว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาธุรกิจต่างๆ ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดกันมาก แต่ธุรกิจร้านขายยาและสุขภาพได้รับผลกระทบน้อยมาก สะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจนี้มีศักยภาพเติบโตสูงมาก” เภสัชกรวัชระ กล่าว

อย่างไรก็ดีบริษัทมีเป้าหมายจะขึ้นเป็นอันดับ 1 ภายใน 3 ปีในธุรกิจร้านขายยาทั้งค้าส่งและค้าปลีก โดยบริษัทได้ลงทุนสร้างSmart warehouse เป็นคลังยาอัจฉริยะ Xserve Fulfillment โดยใช้เทคโนโลยีมาช่วยบริหารจัดการยาต่อไปนี้ร้านค้าไม่จำเป็นต้องสต็อกยาอีกต้องไป เพราะคลังยาอัจฉริยะจะช่วยบริหารจัดการยาและเวชภัณฑ์ยาให้ในทันทีที่สินค้าหน้าร้านหมด โดยคลังยานี้อยู่ในทำเลที่ดี เป็นห้องควบคุมอุณหภูมิ ทำให้ยาไม่เสื่อมคุณภาพเร็ว ที่สำคัญห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิเพียง 20 นาที มีพื้นที่กว่า 6,200 ตารางเมตร

Back to top button