“บล.พาย” คัด 17 หุ้นเด่น “Domestic” แนะจับตาประชุม “กนง.” พุธนี้

“บล.พาย” ชี้สัปดาห์นี้ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,600 – 1,635 จุด แนะสอย 17 หุ้นเด่น กลุ่ม Domestic พร้อมจับตาประชุม “กนง.” พุธนี้


บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า สัปดาห์นี้ประเมินตลาดจะไปให้น้ำหนักกับตัวเลขแรงงานสหรัฐฯ ในวันพุธ อาทิ การรายงานตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนจากสถาบัน ADP Bloomberg คาดที่ 2 แสนตำแหน่ง ซึ่งในวันเดียวกันจะมีการรายงานตำแหน่งเปิดรับสมัครงานในสหรัฐฯ Bloomberg คาดที่ 10.36 ล้านตำแหน่ง

ส่วนในวันพฤหัสบดีช่วงตี 1 ประธาน (เจอโรม พาวเวล) จะมีการออกมาแถลงเกี่ยวกับ Outlook ทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่ Washington DC เชื่อว่าตลาดจะจับตารอดูการแถลงต่อทิศทางดอกเบี้ย ล่าสุดตลาดเริ่มคาดหวังถึงการผ่อนคลายโดยเฉพาะประชุมเดือน ธ.ค. ที่ตลาดคาดว่าดอกเบี้ยจะปรับขึ้นเพียง 0.5% ข้อมูลจาก CME FED WATCH ระบุว่าให้น้ำหนักปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ที่ 76% ทั้งนี้หากประธาน FED ส่งสัญญาณถึงการผ่อนคลายก็อาจจะไม่ได้ส่งผลอะไรมากกับตลาด แต่หากยังแสดงท่าทีเข้มงวดก็จะเป็นลบกับตลาด และสุดท้ายในวันศุกร์กับภาคแรงงานสหรัฐฯอย่างการจ้างงานนอกภาคเกษตร Bloomberg คาดที่ 2 แสนตำแหน่งรวมถึงอัตราการว่างงานตลาดคาดที่ 3.7% เชื่อว่าตลาดอยากเห็นตัวเลขที่ย่ำแย่เพื่อหนุนให้เกิดการผ่อนคลายดอกเบี้ยต่อเนื่อง

สำหรับในประเทศสัปดาห์นี้มี 2 ปัจจัย (1) วันจันทร์จะมีการรายงานภาคการส่งออกของประเทศไทยสำหรับเดือน ต.ค. Bloomberg คาดมูลค่าส่งออกขยายตัว 6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และนำเข้าขยายตัว 11% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ดุลการค้าจะติดลบราว 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (2) วันพุธจะมีการประชุม กนง. Bloomberg คาดว่าที่ประชุมจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 1.25% มองกลุ่ม Bank น่าสนใจต่อเนื่อง

ขณะที่ในวันเดียวกันธนาคารแห่งประเทศไทยจะมีการรายงานภาวะเศรษฐกิจรายเดือนรวมถึงดุลบัญชีเดินสะพัด Bloomberg คาดดุลบัญชีเดินสะพัดเป็นบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยเดือน ต.ค. คาดที่ 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯผลกระทบคือทิศทางค่าเงินบาทเชื่อว่าจะคงแนวโน้มแข็งค่าต่อไป ซึ่งเป็นปัจจัยดึงดูดเม็ดเงินต่างชาติ

โดยสรุปประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1,600 – 1,635 จุด รอดูปัจจัยสำคัญโดยเฉพาะวันพุธ เชิงกลยุทธ์การลงทุนไม่แนะเพิ่มพอร์ตแต่อย่างใดมอง SET INDEX บริเวณล่าสุดเป็นเพียงการ Trading แนะชุดหุ้น Domestic อาทิ ค้าปลีก ได้แก่ BJC, CRC, CPALL และ HMPRO ส่วนธนาคาร ได้แก่ BBL, KBANK, SCB, TTB และ TISCO ขณะที่ท่องเที่ยว ได้แก่ AOT, CENTEL, ERW, MINT และ SPA  สำหรับสื่อสาร ได้แก่ ADVANC และ INTUCH

อย่างไรก็ดี แนะนำ “ซื้อ” BBL ที่ราคาเป้าหมาย 171 บาท โดยสะท้อน (1) งบดุลที่ยืดหยุ่นดี ด้วยอัตราส่วนการตั้งสำรองหนี้ฯ ระดับสูง และฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งพร้อมรับมือความไม่แน่นอน (2) กำไรสุทธิที่โตมั่นคง (3) ROE ที่สูงขึ้น และ (4) มูลค่าหุ้นที่ไม่แพง

ขณะเดียวกันแนะนำ “ซื้อ” COM7 ราคาเป้าหมาย 48 บาท เชื่อว่าอุปสงค์จะยังมีอยู่และได้รับการเติมเต็มในไตรมาส 1/66 แทน เพราะที่ผ่านมามือถือรุ่น iPhone ได้รับการตอบรับที่ดีมาตลอด เมื่ออิงข้อมูลจาก Canalys การส่งมอบสมาร์ทโฟนของ Apple ทั่วโลกนั้นโต 8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ในไตรมาส 3/65 ส่วนคู่แข่งอย่าง Samsung มีการส่งมอบลดลง 8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แม้เปิดตัวรุ่นเรือธงใหม่อย่าง Samsung Galaxy Z Flip 4 ในช่วงเดือน ส.ค. 65 ไปก็ตาม

Back to top button